นั่งรถกระเช้าลงมาแล้ว ก็ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ ๓๐๐ เมตร เป็นสะพานเหล็กที่มีชื่อเสียงมาก เป็นสะพานแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำหวงเหอ เรียกว่าสะพานจงซานเฉียว ซึ่งก่อนหน้านี้เรียกว่าสะพานหมายเลข ๑ แต่ว่าสมัย ดร.ซุนยัดเซน ได้เปลี่ยนเป็นสะพานจงซานตามชื่อของตนเอง เป็นสะพานสำคัญที่สุด
เนื่องเพราะว่าสมัยโบราณใช้แพหนังแกะเป่าลมเข้าไปแล้วผูกมัดเย็บให้ดี ทำการขนถ่ายบุคคลข้ามแม่น้ำ ซึ่งอันตรายค่อนข้างสูง หรือบรรดายอดฝีมือที่ชินกับพื้นที่ ก็ใช้หนังแกะตัวเดียวที่เย็บตลอดตัวแล้ว ก็ผูกขาทั้งสี่ข้างและบริเวณลำคอ เป่าลมเข้าไปจนกระทั่งพอง อาศัยกอดว่ายข้ามแม่น้ำหวงเหอที่ค่อนข้างจะเชี่ยวกราก จึงทำให้กองทัพฮั่นไม่สามารถที่จะข้ามแม่น้ำไป เพื่อสู้รบกับพวกนอกด่านได้ง่ายนัก ดังนั้น..จึงมีการสร้างสะพานนี้ขึ้นมาเป็นแห่งแรก แต่ว่าปัจจุบันนี้คงมีเป็นสิบ ๆ แห่งไปแล้ว
พวกเราถ่ายรูปกันบริเวณนี้แล้ว ก็เดินย้อนกลับมา นั่งรถไปไม่ถึง ๕ นาที แล้วลงในบริเวณสวนระหัดวิดน้ำโบราณ ซึ่งเป็นการวิดน้ำจากแม่น้ำหวงเหอขึ้นมาเพื่อใช้ในการเกษตร เขายังอนุรักษ์เอาไว้ เป็นระหัดที่ใหญ่โตมโหฬารมาก ๆ
เมื่อถ่ายรูปกันแล้ว พวกเราก็เดินกันต่อ เพื่อไปบริเวณที่มี "อนุสาวรีย์หวงเหอหมู่ชิน" ก็คือมารดาแห่งแม่น้ำฮวงโห ซึ่งทางประเทศจีนก็สำนึกในบุญคุณ ที่น้ำช่วยให้มีกินมีใช้ สามารถสัญจรได้ ก็เรียกแม่น้ำว่าหวงเหอหมู่ ก็คือแม่น้ำหวงเหอ คำว่า "หมู่" ก็เป็นคำเดียวกับคำว่า "แม่" ของเรานั่นเอง
พวกเราไปรออยู่เป็นนาน ปรากฏว่าทางพี่วิไล (นางสาวณัฐรดา ภูมิธเนศ) และคุณณรงค์ (นายฑนดล ภูมิธเนศ)ไม่ได้เดินมาด้วย เพราะคิดว่าพวกเราจะย้อนกลับไป ไม่คิดว่ารถมาจอดรออยู่ด้านนี้ พวกเราจึงถ่ายรูปกับหวงเหอหมู่ชินแล้ว ทางด้านคุณโบตั๋นก็ย้อนกลับไป พร้อมกับไกด์ของเติมเต็มทราเวล รับเอาสองผู้เฒ่ามาทางนี้ ความจริงพี่วิไลอายุมากกว่ากระผม/อาตมภาพปีหนึ่งก็จริง คุณณรงค์อายุน้อยกว่า ๑ ปี แต่ว่าด้วยความที่สุขภาพไม่ดี เคยไปตกเจดีย์สูงประมาณ ๓ เมตรมาแล้ว แข้งขาไม่ค่อยจะทำงาน จึงเดินลักษณะเหมือนอย่างกับคนแก่อายุมากกว่านั้นไปหลายปี
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2025 เมื่อ 04:17
|