พวกท่านอาจจะสงสัยว่ากระผม/อาตมภาพไปไหน ไม่ใช่ครูบาอาจารย์ก็เพื่อนฝูง ไม่เพื่อนฝูงก็ลูกศิษย์ ก็เพราะว่าตอนเป็นพระใหม่ไม่ค่อยเกี่ยงงาน ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ไปงานอบรมที่ไหนก็ไป งานแบบนั้นแหละ เราจะได้ครูบาอาจารย์ด้วย ได้เพื่อนร่วมรุ่นด้วย ถือว่าเป็น "คอนเน็คชั่น" ก็คือเส้นสายอย่างหนึ่ง ที่จะเชื่อมโยงพวกเราไว้ ก็คือคำว่า "รุ่นเดียวกัน"
อย่างของกระผม/อาตมภาพ นักเทศน์รุ่นนั้น ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันตลอด ๑๕ วันก็คือพระมหาชรัช อุชุจาโร ป.ธ. ๖ ปัจจุบันนี้ก็คือพระราชวัชรญาณโมลี, ดร. เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร (พระอารามหลวง) รองเจ้าคณะภาค ๑๘ ใครจะไปนึกว่ามหาประโยค ๖ สมัยนั้นจะขึ้นมาถึงระดับนี้ได้..!
ตอนที่ดร.หนึ่ง (พระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร.) จะเก็บวันปฏิบัติธรรมของปริญญาเอก แล้วทางวิทยาสงฆ์ปัตตานีมีจัดปฏิบัติธรรมอยู่ ดร.หนึ่งก็ถามผมว่า "หลวงพ่อมีใครที่รู้จักมักคุ้นทางด้านปัตตานีบ้างครับ ? ผมจะได้ไปอาศัยพักด้วย" กระผม/อาตมภาพถามว่า "คุณอบรมที่ไหน ?" ท่านบอกว่า "วิทยาสงฆ์ปัตตานี" กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "ให้ไปหาผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ บอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน" หายไป ๒ วัน ดร.หนึ่งท่านโทรมาบอกว่า "อยู่ห้องแอร์คนเดียว สบาบใจเฉิบเลยครับ" ก็คือไม่คิดว่า ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ก็คือท่านอาจารย์มหาชรัช หรือปัจจุบันก็คือรองเจ้าคณะภาค ๑๘..!
เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าพวกเราในช่วงที่อายุกาลพรรษายังน้อยอยู่ อะไรที่ช่วยเสริมความรู้ เสริมวิทยฐานะตนเอง ถ้ามีโอกาสรีบไขว่คว้าเอาไว้ เนื่องเพราะว่านานไปถ้าเรายังอยู่ต่อ ไม่ช้าก็เร็ว หน้าที่รับผิดชอบจะต้องตกลงมา ถ้าถึงเวลา เขาต้องการอะไรแล้วเรามีทั้งนั้นก็จบ ไม่เช่นนั้นถึงเวลาเขาต้องการแล้วเราไม่มี ก็ต้องไปตะเกียกตะกายศึกษาใหม่อบรมใหม่ จะทำให้เสียเวลามาก..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:43
|