ดังนั้น..ในโลกยุคที่ใครกำปั้นใหญ่กว่า คนนั้นเสียงดัง ไม่ได้หมายความว่ากำปั้นใหญ่กว่าจะชนะ เพราะว่าต่างฝ่ายต่างมีคนหนุนหลัง
วิธีที่ดีที่สุดก็คืออย่าโง่ให้เขาปั่นหัวได้ ใช้วิธีเดียวกับที่พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณว่า "ทำสนามการรบให้เป็นสนามการค้า" อะไรขายได้กูขายหมด..!
สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ชายแดน ตอนนั้นบุหรี่ยังเป็นกรุงทอง ๘๕ กับสามิต ๑๔ ซองละ ๖ บาท ปัจจุบันนี้กี่ตังค์ ? ใครดูดบุหรี่บ้าง ? จะเป็น ๑๐๐ บาทแล้วกระมัง ? แล้วรู้ไหมว่าปีที่บุหรี่ซองละ ๖ บาท ชายแดนเขาขายซองละ ๑๒๐ บาท..! อะไรที่หาไม่ได้ของก็จะแพง ซิปวีนัสตัวหนึ่งยาวประมาณ ๖ นิ้ว ตัวละ ๖๐ บาท..! ปีนั้นทองคำบาทหนึ่งประมาณ ๒ พันนิด ๆ เท่านั้นเอง..!
ดังนั้น..ในเรื่องของการที่จะรบเอาความสะใจ จะกลายเป็นความเดือดร้อนแทน เราจะเห็นว่าทหารดำเนินการวิธีไหน ? ปิดด่าน..เพราะว่านั่นคือเส้นทางชีวิตของเขา ประเทศของเขาไม่สามารถที่แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนได้ ชาวบ้านจะเดินขบวนประท้วงรัฐบาล ก็ต้องหาศัตรูให้ชาวบ้าน ไม่มีวิธีไหนดีกว่าโยนขี้ให้ประเทศไทย..! ทุกคนรู้ แต่คนเขมรไม่รู้ เพราะว่าโดนการประชาสัมพันธ์ปิดหูปิดตาหมด..!
เนื่องเพราะว่าพวกฉลาด ๆ ตายไปตอนสงครามเขมรหมดแล้ว ไอ้ที่เหลือโง่ทั้งนั้น..! รัฐบาลพูดอะไรกูเชื่อหมด ถึงขนาดทำคลิปมาเยาะเย้ยว่า "คนไทยมีข้าวกินหรือเปล่า ?" "ปิดด่านแล้วอดอยากมากไหม ?" เรื่องที่เขาพูดจริง ๆ เป็นเรื่องที่เราควรจะถามเขานะ แต่พวกคุณเห็นไหมว่า เรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์นั้นสำคัญแค่ไหน ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:58
|