ท่านบอกว่าในการปฏิบัติธรรมของท่านวันนั้น สภาพจิตจะก้าวเข้าสู่ความหลุดพ้น แต่ว่าสัญญาเดิมรั้งเอาไว้ จึงได้ทราบว่าตนเองปรารถนาที่จะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก่อน พิจารณาแล้วว่าถ้าหากว่าตนเองพิจารณาต่อไปในบัลลังก์นี้ ก็จะก้าวเข้าถึงมรรคผลเลย ตัดในเรื่องของอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณไป แต่ด้วยความที่สัญญาเดิมของท่านหนักแน่นกว่า เหนียวแน่นกว่า ท่านจึงตัดสินใจคลายบัลลังก์ออกมา ยอมปฏิบัติต่อในสายพุทธภูมิ น่าเสียดายที่ว่าอายุของท่านสั้นไปนิดหนึ่ง ไม่เช่นนั้นแล้วจะสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้มากกว่านี้
ดังนั้น..ในเรื่องของการเรียนทางโลก วิชาการต่าง ๆ นั้น กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่าตัวเองอ่านหนังสือก็เข้าใจ แต่ว่าการที่ได้พบครูบาอาจารย์ที่มีความดีความงามในระดับนี้ ได้พบเพื่อนฝูงที่เป็นนักปฏิบัติธรรมชนิดเอาชีวิตเข้าแลกแบบนี้ ต่อให้เจอเพียงท่านเดียวก็คุ้มกับเวลา ๑๐ ปีที่ได้เรียนอยู่ ก็คือจากประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก อย่าว่าแต่กระผม/อาตมภาพโชคดีได้พบหลายต่อหลายท่าน แต่วันนี้ยกตัวอย่างขึ้นมาให้ท่านทั้งหลายได้เห็นแต่เพียงเท่านี้
อย่าลืมว่าเราท่านทั้งหลายที่กล่าวมานั้น กำลังฝึกหัดขัดเกลา ปฏิบัติ กาย วาจา ใจ ของตนเอง เพื่อที่จะเป็นอย่างท่านเจ้าคุณอาจารย์โสภาที่ว่า "จะเป็นพระของพระพุทธเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้"
ดังนั้น..ถ้าทุกท่านได้ยินแล้วไปรบกวนท่าน แล้วท่านไม่ต้อนรับ เพราะว่าหวงเวลาปฏิบัติของตนเอง ก็กรุณาอย่าโกรธ อย่าเกลียดกัน แต่ว่าขอให้อนุโมทนาและยินดีเถิด ที่ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ยังคงทุ่มเทชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา สร้างทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ช่วยกันค้ำจุนพระพุทธศาสนาที่ง่อนแง่นของเราให้คงอยู่จนถึงปัจจุบัน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2025 เมื่อ 01:38
|