| 
				  
 
			
			กระผม/อาตมภาพถือว่าโชคดีมาก เนื่องจากว่าในการที่ตัดสินใจเข้าเรียนต่อ เพราะว่าโดนพรรคพวกเพื่อนฝูงช่วยกันเข็นขึ้นมา โดยต้องการให้เป็นเครื่องมือช่วยเพื่อนฝูงที่ไปศึกษา ในลักษณะว่าช่วยดึงเพื่อนไปด้วย แล้วก็ได้เจอกับครูบาอาจารย์ดี ๆ หลายต่อหลายรูป 
 อย่างเช่นท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิต ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือพระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ., รศ., ดร. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ. ๙) พระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรอง ซึ่งตอนนั้นท่านเป็นพระราชาคณะสามัญเปรียญฝ่ายวิปัสสนาธุระที่พระศรีวรญาณ, วิ. ท่านก็เริ่มคุมกรรมฐานให้พวกกระผม/อาตมภาพมาแล้ว และค่อย ๆ เจริญในสมณศักดิ์ขึ้นมาเป็นพระราชสิทธิมุนี, วิ.  ขึ้นมาเป็นพระเทพวิสุทธิมุนี, วิ.  ขึ้นมาเป็นพระธรรมวชิรมุนี, วิ.
 
 จนกระทั่งเป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรอง หรือเขาเรียกกันว่ารองสมเด็จพระราชาคณะ บางคนก็เรียกว่าเจ้าคุณชั้นพรหม ท่านเองก็ยังออกบิณฑบาตทุกวัน ฉันภัตตาหารมื้อเดียว ไม่เก็บสะสมเงินทอง ออกกิจนิมนต์วันนั้น  ถ้าหากว่าได้รับปัจจัยมาเท่าไร ท่านจะสร้างบุญสร้างกุศลต่อจนหมดภายในวันนั้นเลย..!
 
 ด้วยความที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิตท่านตั้งหน้าตั้งตาศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม โดยเฉพาะท่านจบปริญญาเอกทางโลกถึงสองใบด้วยกัน ก็คือปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศาสนศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหิดล และปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทางธรรมท่านจบเปรียญธรรม ๙ ประโยค แล้วก็คงจะเล็งเห็นว่า
 
 วิชาโลกเรียนเท่าไรไม่รู้จบ
 
 พื้นพิภพกลมกว้างใหญ่ลึกไพศาล
 
 วิชาธรรมเรียนและทำจนชำนาญ
 
 ย่อมพบพานจุดจบสบสุขเอย
 
 ที่เป็นบทกวีของแม่เฒ่าปักษ์ใต้ ซึ่งครูบาอาจารย์ของกระผม/อาตมภาพรูปหนึ่ง ก็คือพระเดชพระคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ท่านได้เขียนติดหัวเตียงเอาไว้
 
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2025 เมื่อ 01:32
 |