เมื่อแจ้งไปแล้วกระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการตามนั้น แต่ปรากฏว่ากรรมการวัดทั้ง ๗๒ คนนั้น มีมาประมาณ ๓๐ คนบ้าง ไม่ถึง ๓๐ คนบ้าง กระผม/อาตมภาพก็แจ้งให้ทราบทุกครั้งที่ประชุมว่า "ใครมีใจให้กับทางวัด อาตมภาพก็ยินดีที่จะรับให้เป็นกรรมการวัดต่อไป แต่ถ้าใครไม่มีใจให้กับทางวัด ถึงเวลาอาตมภาพก็จะตัดหางทิ้งไปเลยเหมือนกัน..!"
ครั้นครบ ๓ ปีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ออกคำสั่งเจ้าอาวาส ยกเลิกการแต่งตั้งไวยาวัจกร ตลอดจนกระทั่งคณะกรรมการวัดทั้ง ๗๒ คน แล้วแต่งตั้งใหม่เฉพาะผู้ที่มาประชุมทุกครั้งเท่านั้น ซึ่งเหลืออยู่ไม่ถึง ๓๐ คนดี..! ปรากฏว่ากลายเป็น "ผึ้งแตกรัง" เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นกรรมการวัดใหญ่แบบวัดท่าขนุน ซึ่งเป็นวัดหลักของทางอำเภอแล้ว เท่ากับว่าเขาสูญเสียฐานเสียงไปส่วนหนึ่ง แต่ละคนจึงวิ่งมาวัดเพื่อขอร้องให้กระผม/อาตมภาพแต่งตั้งใหม่..+
แต่กระผม/อาตมภาพนั้นบอกว่า "ให้โอกาสพวกคุณมา ๓ ปีแล้ว ในเมื่อคุณไม่มีเวลาให้กับทางวัด ก็จะไม่แต่งตั้งใหม่ ปล่อยให้คุณไปทำงานของคุณให้เต็มที่ ขอบใจที่ยังมีใจให้กับทางวัด แต่ไม่อยากทำให้คุณต้องลำบากใจ ในการที่ทำงานตัวเองด้วย แล้วต้องมาเหนื่อยยากกับงานวัดด้วย ขอให้คุณทำงานส่วนตัวของคุณให้ดีก็แล้วกัน"
หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ออกระเบียบวัด "ห้ามบอกบุญ ห้ามเรี่ยไร" ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนตอนแรกก็ยังมีการ "ลองของ" ก็คือถึงเวลาก็นำเอาผ้าป่ามาวัด กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไม่ได้สั่งให้ไปหา เพราะฉะนั้น..เอากลับไปทอดที่วัดไหนก็ได้ ทางวัดท่าขนุนไม่รับ..!" เจอเข้าไป ๒ - ๓ ราย ท้ายสุดเรื่องการเรี่ยไรไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง ไม่เป็นเวล่ำเวลา ก็หมดไป การออกซองฎีกาเพื่อเรี่ยไรก็ไม่มี เนื่องเพราะว่าเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนออกเป็นระเบียบวัดไปแล้วว่า "ห้ามบอกบุญ ห้ามเรี่ยไร"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2025 เมื่อ 01:45
|