สำหรับวันนี้ เมื่อไปถึงบ้านที่แถวตำบลกระทิง ก็แวะไปเยี่ยมป้าหญิงเสียก่อน ป้าหญิงนั้นก็คือคุณจินตนา นวรัตน ณ อยุธยา จะว่าไปแล้วก็มีฐานานุศักดิ์ที่หม่อมราชวงศ์หญิง แต่ด้วยความที่ว่ามาแต่งงานกับสามัญชน ลูกชายทั้งสองคนจึงไม่สามารถสืบฐานันดรหม่อมหลวงได้ กลายเป็นบุคคลธรรมดา ป้าหญิงเองก็ทำตัวเรียบง่ายเหมือนอย่างกับแม่บ้านต่างจังหวัด ต้อนรับขับสู้ด้วยดีทุกครั้งที่ไปถึง
ครั้งนี้กระผม/อาตมภาพไปถึงก็ถือโอกาสเข้าบ้านไปนั่งรอ เนื่องเพราะว่าป้าหญิงปีนี้ก็อายุ ๙๑ ปีแล้ว คนแก่ต้องให้พักผ่อนมากหน่อย เมื่อรออยู่พักใหญ่ ยังไม่มีทีท่าว่าคนแก่จะตื่น กระผม/อาตมภาพจึงชวนหมาที่บ้านป้าหญิงไปเดินดูสวนผลไม้กันเสียก่อน กระผม/อาตมภาพมีวาสนาบารมีกับหมาเป็นอันมาก ไปที่ไหนก็ตามสามารถผูกมิตรกับหมาได้เกือบทุกตัว ปกติแล้วถ้าหมาวิ่งมา คนแปลกหน้าก็มักจะโดนกัด แต่ของกระผม/อาตมภาพ ส่วนใหญ่หมาวิ่งมาแสดงความรู้จัก บอกให้นำทางก็นำได้เป็นอย่างดีเสียด้วย..!
แม้กระทั่งที่วัดท่าขนุนซึ่งมีหมาอยู่เกือบ ๒๐๐ ตัว แยกออกเป็นกลุ่ม ๆ อยู่ตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้างทั่วทั้งวัด เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่าแม้จะไม่คุ้นเคย ไม่ได้เลี้ยงดู ไม่ได้ให้อาหาร แต่พอเดินไปถึง หมาทุกตัวกลับรู้ว่ากระผม/อาตมภาพคือเจ้าอาวาส ซึ่งถ้าในสายตาหมาก็คือ "จ่าฝูง" ก็จะเข้ามาแสดงความสนิทสนมคุ้นเคยด้วยทุกที่ไป เป็นเรื่องที่ดูแล้วก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่า หมาเขามีสัญชาตญาณรู้ได้จนถึงขนาดนี้
เมื่อกลับจากการเที่ยวสวนมา ถือวิสาสะนั่งรออยู่พักใหญ่ ป้าหญิงก็ตื่นขึ้นมา ครั้นล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนผ้าผ่อนแล้วก็ออกมาคุยด้วย ตลอดจนกระทั่งขอถวายสังฆทานด้วย เพียงแต่ว่าปีนี้ไม่มีผลไม้ถวาย เนื่องเพราะว่านอกจากจะโดนช้างลงสวนแล้ว ก็ยังมีพายุที่ทำให้บรรดาทุเรียนตกร่วงเป็นอันมาก เมื่อคุยกันจนประมาณ ๘ โมงครึ่ง กระผม/อาตมภาพก็บอกลา เดินทางไปยังตำบลพลอยแหวน อำเภอท่าใหม่ เพื่อไปบ้านของคุณชาญยุทธ บุญรังษี ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็นกอบกฤตมาในไม่นานนี้เอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2025 เมื่อ 01:09
|