กระผม/อาตมภาพจึงได้จัดตั้งขึ้นมาเป็นที่พักสงฆ์เกาะพระฤๅษีก่อน โดยการทำการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านสั่ง ซึ่งมีทั้งศาลา ทั้งอาคารแทนโบสถ์ ทั้งหอฉันและกุฏิที่พัก เหล่านั้นเป็นต้น ตั้งแต่วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๖ ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณปีเดียวก็เสร็จสรรพเรียบร้อย
ในช่วงนั้นเรียกว่าทำงานกันจน "ตัวดำเป็นเหนี่ยง" เมื่อกลับไปเยี่ยมพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ เพื่อปรึกษาหารือเรื่องต่าง ๆ ที่ท่านสอบถามว่าควรจัดการอย่างไร ? พอเอาจีวรออกนั่งคุยกัน ท่านยังตกใจ ถามว่า "คุณไปทำอะไรมา ถึงได้ไหม้จนหลังดำขนาดนั้น..!" กระผม/อาตมภาพก็เรียนถวายว่า "แค่ก่อสร้างวัดไปทั้งวัดเท่านั้น..!"
หลังจากนั้นแล้ว เมื่อพระเดชพระคุณพระราชธรรมโสภณ ซึ่งภายหลังได้เลื่อนขึ้นมาเป็นพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทโธ ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านได้ส่งกระผม/อาตมภาพไปอยู่วัดโน้นบ้าง วัดนี้บ้าง ที่เห็นว่า "ไปไม่ไหว" เพื่อให้ช่วยในการพัฒนาวัดทั้งหลายเหล่านั้น กระผม/อาตมภาพก็ได้สามเณรกิตติวงษ์ ปิ่นประดับ คอยดูแลสถานที่ให้แทน จนกระทั่งมาภายหลัง เมื่อมาอยู่ที่วัดท่าขนุนอย่างเป็นทางการ และสามเณรกิตติวงษ์ ปิ่นประดับ ไปบวชเป็นพระธรรมยุต ซึ่งได้ข่าวว่าภายหลังท่านสึกมาและมีวัตรปฏิบัติแบบโยคีแทน
กระผม/อาตมภาพก็มอบหมายให้พระครูธรรมธร แสงชัย กนฺตสีโล อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์ถ้ำทะลุช่วยดูแลเกาะพระฤๅษีแทน แต่ว่าท่านมีนิสัยอยู่ไม่ติดที่ ดูแลได้ไม่นานก็ออกธุดงค์แบบสนุกสนาน จึงได้ส่งพระสมุห์กำพร สุชาโต ไปดูแลแทน แล้วภายหลังเมื่อพระสมุห์กำพรได้สึกหาลาเพศไป ก็มอบหมายให้พระปลัดอาทิตย์ ชุตินฺธโร ไปเป็นเจ้าสำนักอยู่ระยะหนึ่ง
เมื่อพระปลัดอาทิตย์ ท่านออกมาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน และปัจจุบันนี้ก็คือเจ้าสำนักสงฆ์ห้วยน้ำริน จังหวัดเชียงใหม่ กระผม/อาตมภาพก็มอบหมายให้พระมหากวีศิลป์ วิสุทฺธิกุโล ไปเป็นประธานสงฆ์ในการบริหารจัดการสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีแทน ซึ่งในยุคที่พระมหากวีศิลป์เป็นเจ้าสำนักนี้ ท่านได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเกาะพระฤๅษีไปมาก จากที่กระผม/อาตมภาพรื้ออาคารไม้ ไม่ว่าจะเป็นเรือนสุมาลี เรือนสโรชา เรือนกนกวลี ไปตั้งอยู่ที่หมู่กุฏิไม้ประยุกต์วัดท่าขนุน ท่านก็มาบริหารจัดการปรับโน่น ปรุงนี่ จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงไปแทบที่จะจำไม่ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2025 เมื่อ 02:00
|