ข้อที่สามคือ เชื่อมั่นในผู้นำ ก็คือผู้นำซึ่งมีบารมี มีความสามารถ ทำให้ผู้ตามเกิดความเชื่อถือขนาดมอบกายถวายชีวิตให้ อย่างเช่นที่เราเห็นว่า พระมหากษัตริย์ก็ดี บรรดาขุนทัพนายกองต่าง ๆ ก็ตาม ที่มีความสามารถนำทหารหาญออกศึก ทหารสามารถออกรบแบบมอบกายถวายชีวิตให้ เนื่องเพราะเชื่อมั่นว่าผู้นำของตนนั้น สามารถที่จะนำชัยชนะมาสู่ฝ่ายตนได้ หรือว่าต่อให้ต้องเสียชีวิตลงไป ก็มั่นใจว่าผู้นำจะอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ครอบครัวของตนเองอยู่ดีมีสุข ไม่ต้องยากลำบาก
ข้อสุดท้ายคือ ความเชื่อมั่นในตนเอง เกิดจากการประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะการรักษาศีลและเจริญภาวนา ยิ่งเรามีความมั่นคงในศีลเท่าไร ก็ยิ่งเกิดความแกล้วกล้าในสังคมเท่านั้น เพราะมั่นใจว่าเราไม่ต่ำกว่าใคร
คำว่า "ไม่ต่ำกว่าใคร" ในที่นี้ก็คือคุณงามความดีในตัวเอง แล้วถ้ายิ่งสามารถที่จะสร้างสมาธิของตนเองให้เกิดขึ้นได้ สมาธิยิ่งสูงส่งเท่าไร กำลังใจก็เข้มแข็งเข้มข้นมากเท่านั้น ก่อให้เกิดความมั่นใจว่า ความรู้ที่เราศึกษามานี้ สามารถที่จะป้องกันรักษาตนเองได้อย่างแน่นอน
เมื่อบุคคลทั้งหลายมีความเชื่อไปในด้านเดียวกัน เมื่อรวมกลุ่มกันมาก ๆ ขึ้นมา ก็ต้องมีผู้นำเกิดขึ้น ดังนั้น..เราจะเห็นว่า เมื่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลายเชื่อถือ และปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อรวมตัวกันมาก ๆ เข้า มีผู้นำออกมาแสดงตนว่าเป็นฝ่ายเดียวกัน โดยการอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนา เราท่านทั้งหลายก็จะเคารพยกย่องท่าน เพราะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกัน จึงมีการเชื่อถือและปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านชี้นำอย่างแน่นแฟ้น ทำให้เกิดความสามัคคีเป็นปึกแผ่นขึ้นมา
เราจึงจะเห็นได้ว่าในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นั้น ศาสนาซึ่งเป็นข้อกลางนั้นมาก่อน ก็คือความเชื่อถือต่าง ๆ ของพุทธศาสนิกชน เมื่อความเชื่อถือของบุคคลเหมือน ๆ กัน ทำให้เห็นว่าเป็นพวกพ้องเดียวกัน รวมตัวกันขึ้นมา ผู้นำเล็งเห็นด้วยปัญญาว่า ถ้าสนับสนุนความเชื่อของเขา เขาก็จะสนับสนุนตนเองด้วย
ดังนั้น..องค์พระมหากษัตริย์จึงทรงเป็นศาสนูปถัมภก คือผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา ทำให้ผู้คนเทิดทูนท่านอยู่เหนือเศียรเหนือเกล้า มีความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียว เพราะว่ามีหลักยึดเดียวกัน ก็คือศาสนาและพระมหากษัตริย์ จึงเกิดเป็นชาติที่เข้มแข็ง เป็นประเทศที่มั่นคงขึ้นมาได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2025 เมื่อ 02:17
|