หลวงพ่อเจ้าคุณไสวทำการเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วก็วางพร้อมกับโปรยข้าวตอกดอกไม้ เสร็จสิ้นแล้วก็ไปนั่งกันที่ห้องรับสังฆทานของทางวัดอุทยาน รอทางเจ้าภาพจัดถังสังฆทาน เพื่อถวายเป็นการสะเดาะเคราะห์ให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. ซึ่งมีข้าวของต่าง ๆ ตามตำราภาคเหนือ ใส่ถัง ๒๐๐ ลิตรมาถวายรูปละ ๑ ถัง..! กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วรู้สึกว่ามากเกินไป ใครจะมีปัญญาขนกลับวัด ?! ท่านบอกว่าถ้าขนกลับไม่ไหวก็ให้บอก จะให้คนนำไปส่งทีหลัง..!
เมื่อรับสังฆทานและกรวดน้ำให้พรเจ้าของวันเกิด คือพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. แล้ว พวกเราก็ขึ้นไปยังมณฑลพิธีศาลาการเปรียญ เพื่อทำการสืบชะตาต่ออายุตามแบบของล้านนา ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้รับนิมนต์เป็นพระเถราจารย์ ๑ ใน ๔ รูปที่นั่งปรกอธิษฐานจิต เพื่ออำนวยชัยให้กับเจ้าของชะตา ซึ่งพากันนั่งเรียงรายอยู่ภายในซุ้ม
เรื่องของการสืบชะตาต่ออายุนั้น เอามาจากนิทานธรรมบทเรื่องอายุวัฒนกุมาร ซึ่งหมดอายุลง จะโดนยักษ์เอาชีวิตไปภายใน ๗ วัน เมื่อพราหมณ์ผู้เป็นพ่อสอบถามครูบาอาจารย์ทุกรูปแล้ว ไม่มีใครแก้ไขได้ บอกว่าต้องไปหาพระสมณโคดมเท่านั้น
เมื่อไปหา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงให้ตั้งปรัมพิธีดาดผ้าขาว นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนามาเจริญพระปริตรตลอด ๗ วัน ครั้นเมื่อพ้นจาก ๗ วันไปแล้ว ยักษ์ซึ่งได้รับคำสั่งให้มาเอาชีวิตอายุวัฒนกุมาร เนื่องเพราะว่าอยู่ในช่วงหมดอายุลงพอดี ก็ไม่สามารถที่จะเอาไปได้ เพราะว่าพ้นจากเวลาที่ได้รับอนุญาตมาแล้ว อายุวัฒนกุมารจึงได้เจริญอายุมาจนถึง ๑๒๐ ปี จึงได้เรียกกันว่าอายุวัฒนกุมาร
เมื่อมาถึงบ้านเราก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นการสวดมนต์ต่อนาม ซึ่งความจริงก็คือต่ออายุนั่นเอง สวดมนต์ต่อนามบ้าง สืบชะตาบ้าง เมื่อเป็นการสืบชะตา ก็มีทั้งการสืบชะตาผู้คน และการสืบชะตาบ้านชะตาเมือง ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่พิธีใหญ่ขึ้นมาได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2025 เมื่อ 01:44
|