ในจำนวนพระทั้ง ๙ รูปที่ได้รับการครอบครูนั้น กระผม/อาตมภาพอาวุโสอยู่อันดับที่ ๘ มีอาวุโสน้อยกว่าอยู่ ๑ รูป แต่ท่านสึกหาลาเพศไปแล้ว ที่เหลืออีก ๗ รูป อาวุโสมากกว่าทั้งนั้น และมรณภาพไปแล้วหลายรูป ย้ายออกจากวัดไปอยู่ที่อื่นบ้างก็มี แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมพระท่านถึงสั่งให้กระผม/อาตมภาพทำการเป่ายันต์เกราะเพชรก่อนเพื่อน ?
พูดง่าย ๆ ก็คือ "ทำไมเริ่มจากท้ายไปหาหัว ?" ซึ่งจนป่านนี้ผู้ที่อาวุโสกว่าก็ยังไม่มีใครทำเลยแม้แต่รูปเดียว คาดว่าไม่ได้รับคำสั่งจากครูบาอาจารย์หรือว่าพระท่าน จึงไม่สามารถที่จะทำได้ เนื่องเพราะว่าถ้าพระท่านไม่สั่ง ท่านก็ไม่สงเคราะห์ให้ ต่อให้เราสมาธิสมาบัติดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
อีกประการหนึ่งก็คือมีผู้สอบถามว่า "เมื่อไรกระผม/อาตมภาพจะจัดการครอบครูวิชาเป่ายันต์เกราะเพชรให้คนรุ่นต่อไป ?" ก็ต้องบอกว่าสิ่งนี้อยากจะทำใจจะขาด เพื่อที่ให้ตนเองหมดภาระ พ้นจากหน้าที่ตรงนี้ไปเสียที แต่ว่าครูบาอาจารย์หรือพระท่านยังไม่อนุญาต
มานึกถึงตอนที่พระท่านอนุญาตให้หลวงพ่อฤๅษีฯ ทำการครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชร โดยที่สั่งให้พระทั้งวัดภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง เอาไว้ตลอดเวลา เพื่อรักษากำลังใจตนเองไว้ให้ดี แต่ไม่ทราบว่าตอนนั้น ทางกรรมการสงฆ์วัดท่าซุงคิดอย่างไร ? เมื่อปรึกษาหารือกันแล้วถึงได้สรุปว่า การเป่ายันต์เกราะเพชรนั้นเป็นเฉพาะหลวงพ่อฤๅษีฯ เท่านั้น ถ้าใครทำการครอบครูแปลว่าตั้งใจวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์..!
แต่กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นคนดื้อ เมื่อครูบาอาจารย์สั่งก็คือทำด้วยชีวิต ครั้นไปขอให้โยมทำพานไหว้ครูให้ โยมก็ยังเตือนว่ากระผม/อาตมภาพกับรุ่นน้องทั้งสอง ที่ตั้งใจจะครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น พรรษารวมกันยังไม่ได้ ๑๐ พรรษาเลย..! เพราะว่าตอนนั้นกระผม/อาตมภาพได้ ๗ พรรษา รุ่นน้องท่านได้ ๒ พรรษา แต่กระผม/อาตมภาพก็บอกไปว่า "โยมก็รู้ว่าอาตมภาพเป็นบุคคลที่ทำตามคำสั่งพ่อจนตัวตาย อะไรที่ท่านสั่ง แม้แต่ต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องทำให้ได้..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2025 เมื่อ 02:19
|