วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ยังอยู่ในช่วง "ควันหลงของงานเป่ายันต์เกราะเพชร" ซึ่งมีญาติโยมจำนวนหนึ่งไม่สามารถที่จะ "แบ่งภาค" ได้ เนื่องจากว่าเป็นลูกศิษย์หลายวัด เมื่อวัดหนึ่งจัดงานชนกับอีกวัดหนึ่ง ก็ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะไปทางไหน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านก็ต้องรอวันเสาร์ที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ซึ่งปีนี้ทางวัดท่าขนุนจะมีงานเป่ายันต์เกราะเพชรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ค่อยที่จะสบายใจ
เหตุเพราะว่าการเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น มีสิ่งหนึ่งที่หลายท่านไม่รู้ก็คือ เป็นการรวบรวมกำลังใจของคนหมู่มาก เพื่อส่งไปให้บรรดาเทวดาทั้งหลายซึ่งปกปักรักษาประเทศไทย ให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีกำลังเพิ่มขึ้น ในการดูแลให้ประเทศของเรา อยู่รอดปลอดภัยจากเหตุการณ์ไม่ดีต่าง ๆ ถ้าเรื่องหนักก็ช่วยทำให้เบา ถ้าเรื่องเบาก็ช่วยทำให้หาย เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายมุ่งอยู่อย่างเดียวว่า "จะมารับของดีเอาไว้เพื่อรักษาตัวเอง"
หลายท่านก็คิดว่าการเป่ายันต์เกราะเพชรนั้นสามารถทำเมื่อไรก็ได้ กระผม/อาตมภาพต้องเสียเวลามาอธิบายให้ทราบครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ถ้าตามสายครูบาอาจารย์ นับเอาแค่ใกล้ ๆ คือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มาถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านอนุญาตให้เป่ายันต์เกราะเพชรได้เฉพาะวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำเท่านั้น
ดังนั้น..เมื่อมีวัดบางแห่งซึ่งอ้างว่าเรียนมาตามสายหลวงพ่อวัดท่าซุง แต่ไปจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ พูดง่าย ๆ ก็คือทำในลักษณะเพื่อหาผลประโยชน์ เนื่องเพราะว่ามีผู้ศรัทธาในยันต์เกราะเพชรกันมาก หรือว่าวัดใหญ่บางแห่งมีผู้อ้างว่าศึกษาวิธีการเป่ายันต์เกราะเพชรมาจากหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค แล้วก็จัดเป่ายันต์เกราะเพชรทุกวัน ใครไปถึง จัดพานไหว้ครูพร้อมเงิน ๒๙๙ บาท ท่านก็จะเป่าให้ทันที..!
ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มรณภาพไปในปี ๒๔๘๑ ดังนั้น ถ้าหากว่านับมาถึงปัจจุบันนี้ก็แปลว่าหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มรณภาพไปแล้ว ๘๘ ปี ถ้าผู้อ้างว่าศึกษามาจากหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ต่อให้อายุ ๘๘ ปี ตอนนั้นก็น่าจะเพิ่งเกิดได้วันเดียว ไม่น่าที่จะศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ จากหลวงปู่ได้..!
ดังนั้น..เมื่อมีการอ้างอิงถึงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ อันดับแรกเลยก็คือว่า เราต้องพินิจพิจารณาก่อนว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเท่าไร ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะโดนคนหลอกหาประโยชน์อยู่เสมอ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2025 เมื่อ 02:13
|