ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 30-05-2025, 22:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,253 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การไหว้ครูนอกจากเป็นการแสดงออกซึ่งความยอมรับนับถือ และความกตัญญูกตเวทิตาแล้ว แต่ละสายวิชาการนั้นไม่ได้มีครูบาอาจารย์แค่รูปเดียว ท่านเดียว เนื่องเพราะว่าบางวิชาสืบสายกันมาหลายร้อยปี อาจจะถึงพันปี ครูบาอาจารย์ที่มรณภาพหรือเสียชีวิตไปแล้วย่อมมีมาก

หลายท่านที่ทรงคุณงามความดีมาก ก็อาจจะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานไปเลย หลายท่านก็อาจจะเป็นพรหม เป็นเทวดา เป็นนางฟ้าอยู่ข้างบน การที่เราแสดงออกซึ่งการยอมรับนับถือ แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเห็นก็เกิดความเมตตา ถ้ามีอะไรไม่เกินวิสัย ไม่เกิดกฎของกรรม ท่านสามารถสงเคราะห์ให้ได้ก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ ก็แปลว่างานไหว้ครูนั้นมีสิ่งสำคัญมากกว่าที่เรารู้เห็นทั่ว ๆ ไปแฝงอยู่ด้วย


คราวนี้ท่านทั้งหลายที่มารวมกันเป็นจำนวนมากที่วัดท่าขนุนตั้งแต่วันนี้ นอกจากมาร่วมงานไหว้ครูแล้ว ความตั้งใจก็คือมารับยันต์เกราะเพชรบ้าง มาหาวัตถุมงคลไปบูชาติดตัวบ้าง ต้องบอกว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากความกลัวตายของท่านทั้งหลายนั่นเอง..! มนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนามนั้นมีธรรมชาติอยู่ ๔ อย่างก็คือ การกิน การนอน การเสพกาม การหลบภัย เรื่องพวกนี้จะฝังอยู่ใต้จิตสำนึกเลย

เราท่านทั้งหลายมาแสวงหาของดีไว้ป้องกันตัว ก็คือป้องกันตาย ก็เพราะว่าเรายังกลัวตายอยู่ คราวนี้สิ่งทั้งหลายที่ท่านแสวงหา แม้ว่าจะเป็นวิชาการที่เกิดจากบารมีพระพุทธเจ้า อย่างยันต์เกราะเพชรก็ดี วัตถุมงคลที่อธิษฐานปลุกเสกโดยอาศัยบารมีพระพุทธเจ้าก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะบรรเทาเคราะห์กรรมใหญ่ให้เป็นเบา ช่วยปัดเป่ากรรมเบาให้มลายหายไป แต่ช่วยเราได้แค่ชาตินี้เท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2025 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา