หลายแห่งยึดแบบสวดมนต์หลวง โดยเฉพาะประเทศพม่า ถึงเวลาเขาขึ้นบทขัดทุกบท ความจริงการขึ้นบทขัดเป็นเรื่องดีมาก เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น กำหนดจดจำโดยพระอานนท์ ก็จะขึ้นว่า "เอวัมเม สุตัง ฯ ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สมัยหนึ่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า สาวัตถิยัง วิหะระติ เสด็จประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี" หัวข้อธรรมกี่ข้อ พระสูตรกี่บท ก็แทบจะขึ้นแบบนี้ทั้งหมด..!
ดังนั้น..ถ้าไม่มีบทขัด เราขึ้นไปเลยจะแยกไม่ออกว่ากำลังจะสวดบทไหน ? จึงเป็นเรื่องที่ควรจะศึกษาเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะหลายต่อหลายแห่งในประเทศเรา ใช้บท "ราชะโต วา โจระโต วาฯ" เป็นปกติ เพียงแต่ว่าพวกเราที่นี่ไม่ค่อยได้ใช้กัน แต่ยังดีที่ว่าไม่ว่าจะเป็นบทอาทิตตฯ อนัตตฯ ธัมมจักกฯ พวกเราขึ้นบทขัดกันเป็นปกติ ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า ถ้าต้องขึ้นบทขัดเหล่านี้ หรือว่าบทขัดธรรมนิยามเมื่อไร ถ้าเป็นการสวดมนต์ของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็จะเหลือกระผม/อาตมภาพคนเดียวที่ขึ้นให้เขา..!
ดังนั้น..ทุกท่านต้องพยายามศึกษาและสวดให้ได้ภายใน ๒ พรรษา ก่อนที่สมาธิภาวนาจะเจริญกว่านี้แล้วไม่อยากสวดมนต์ ไปจนกว่าสมาธิจะทรงตัว ปรับเข้ากับการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ เราถึงจะย้อนกลับมาสวดมนต์ได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งระยะเวลาเหล่านี้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน
เราจะเห็นว่าสำนักบ่อน้ำพระอินทร์ของหลวงตาสิ้นคิด ท่านถึงขนาดบอกว่า "ไม่ได้บวชมาเพื่อสวดมนต์" เนื่องเพราะว่าอยู่ในระหว่างที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการภาวนา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราต้องรีบซักซ้อมทุกอย่างให้คล่องตัว เมื่อถึงเวลาจะได้ใช้งานได้อย่างที่ตนเองต้องการ ไปไหนก็มีความองอาจ แกล้วกล้า ไม่ต้องกลัวขายหน้าคนอื่นเขา
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2025 เมื่อ 01:58
|