ปรากฏว่าในงานนั้นมีเพื่อนฝูงจำนวนมากที่คุ้นเคยกันได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย ถ้านับในองค์กรพระอุปัชฌาย์ ๕๑ ที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานอยู่ ก็มีหลวงพ่อเจ้าคุณเชาวลิต (พระวชิรปัญญากร) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) พระครูสิทธิวัฒนคุณ (พรพรหม ฐิตคุโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตตลิ่งชัน เจ้าอาวาสวัดกระจัง เป็นต้น
ส่วนในระดับครูบาอาจารย์นั้น ปรากฏว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิต - พระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ., รศ.ดร. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ. ๙) ผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านนั่งรถเข็นมา กระผม/อาตมภาพเข้าไปกราบเรียนถามสุขภาพว่าเป็นอย่างไรบ้าง ? ท่านบอกว่า "ใช้ไปซ่อมไป" ซึ่งท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิตท่านออกบิณฑบาตทุกวัน และฉันอาหารมื้อเดียว
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่ออายุกาลผ่านวัยมากขึ้น สารอาหารน่าจะไม่พอเพียง ร่างกายก็เลยออกอาการประท้วงแบบนี้ กระผม/อาตมภาพจึงเรียนบอกท่านว่า "ใช้ร่างกายแบบเดียวกับผมเลยครับ" เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองไม่เคยนึกว่าจะมีวันพรุ่งนี้ ดังนั้น..จึงทำหน้าที่วันนี้ให้ดีที่สุดอยู่เสมอ ท่านเจ้าคุณอาจารย์ไม่พูดอะไร แต่จับมือแล้วบีบกลับชนิดที่ว่าแรงมาก..!
เมื่อรับรางวัลเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวกับทุกคนเดินทางกลับวัดท่าขนุน ซึ่งระยะทางนอกจากจะไกลแล้ว ยังมีการซ่อมถนนในทุกเส้นทาง แถมฝนฟ้าก็ตกกระหน่ำอย่างชนิดไม่เกรงใจคนเดินทาง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะถึงวัดกี่โมงกี่ยามกันแน่ ?!
วันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคมนี้ทางวัดท่าขนุนจะมีงานใหญ่ คือการบวงสรวงไหว้ครูประจำปี และเป่ายันต์เกราะเพชร ซึ่งจะมีญาติโยมเดินทางไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ได้บอกกับทุกคนไปจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า การรับยันต์เกราะเพชรนั้น ถ้าเรามีจิตศรัทธา จะรับในบริเวณไหนของโลกนี้ก็ได้
แต่ก็เป็นเรื่องแปลกว่า ญาติโยมบางท่านรับยันต์ที่บ้านแล้ว ปรากฏอาการอย่างชัดเจนว่ารับได้ ครั้งต่อไปก็ไปรับที่วัดท่าขนุน..! เป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพ "หัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก" ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าท่านอยู่ในอารมณ์ไหน ในเมื่อสามารถที่จะรับได้ แล้วทำไมถึงยังอุตส่าห์เดินทางไกลไปถึงวัดท่าขนุน ? พูดง่าย ๆ ว่าถ้าท่านอยู่แค่กรุงเทพมหานคร การเดินทางไปวัดท่าขนุน ก็ต้องใช้เวลาประมาณ ๔ ชั่วโมง แล้วท่านรับที่บ้านได้อย่างนั้น กลับต้องการจะไปรับที่วัด เพื่อความแน่ใจหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2025 เมื่อ 00:43
|