พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายไว้ให้เป็นค่าภัตตาหาร ก็คือเป็นค่าอาหารพระ ไม่ใช่เงินเดือน ถึงได้เรียกว่า "นิตยภัต" คือ "ค่าอาหารประจำ" สำหรับพระที่พระองค์ท่านเรียกใช้งาน ที่พระองค์ท่านถวายภารธุระในพระพุทธศาสนาให้ แต่พวกเราก็แกล้งโง่ ไม่เห็นในพระราชศรัทธายังไม่พอ ยังเห็นว่าเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาเสียอีก ทั้ง ๆ ที่ไม่พอที่จะใช้งานเลยแม้แต่น้อย..!
ในขณะเดียวกัน เรื่องของสมณศักดิ์ก็เป็นพระราชศรัทธา บุคคลที่ท่านเข้าใจถึงความเป็น "ยศช้าง ขุนนางพระ" ก็จะทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายสมณศักดิ์ให้ เพื่อความสะดวกในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ แต่บุคคลที่ขาดสติก็จะไปหลงยึดในสมณศักดิ์นั้น ๆ จนกระทั่งมีการอยู่ในลักษณะถือตัวถือตนขึ้นมา นั่นก็ต้องแล้วแต่กิเลสในใจ ว่าของแต่ละคนใครมีมากมีน้อยกว่ากัน
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่เรื่องที่ท่านทั้งหลายจะไปก้าวล่วงในพระราชอำนาจ ซึ่งพระของเรา แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดเจนว่า "อนุชานามิ ภิกฺขเว ราชูนํ อนุวตฺติตุํ" แปลเป็นใจความว่า "ดูก่อน..ภิกษุทั้งหลาย เราให้คล้อยตามพระราชา"
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พระเรานอกจากปฏิเสธพระราชศรัทธาไม่ได้แล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วที่รู้ลึก รู้จริง ยังเห็นว่าการประกาศพระศาสนานั้นจะสะดวกขึ้น ก็ต่อเมื่อได้รับการอุปถัมภ์จากผู้ปกครอง ก็คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กลับกลายเป็นข้อที่ท่านทั้งหลายเอามาโจมตีโดยไม่ลืมหูลืมตา ก็ได้แต่หวังว่าท่านทั้งหลายจะไม่โดนมาตรา ๑๑๒ ในฐานะที่ก้าวล่วงพระราชอำนาจก็แล้วกัน..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2025 เมื่อ 01:04
|