ท่านบอกว่าเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือสามารถที่จะแยกกายไปยังหลาย ๆ ที่พร้อมกันได้ สาเหตุที่ ๒ ก็คือ สถานที่นี้ทำในสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล เป็นพุทธานุสติใหญ่ ที่จะอนุเคราะห์สงเคราะห์ต่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ท่านจึงต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะพรหมเทวดาทั้งหลายที่มานั้น ท่านก็มาด้วยหวังอนุโมทนาส่วนบุญส่วนกุศลตรงนี้ และช่วยกันอำนวยอวยพรให้งานทุกอย่างสำเร็จลงด้วยดี
กระผม/อาตมภาพในฐานะคนขี้สงสัยก็ยังเรียนถามท่านต่อไปว่า "มีบ้างไหมที่เขาเรียกแล้วไม่ไป ?" เล่นเอาพญานาครูปหล่อหัวเราะหึหึ บอกว่า "มีถมไปครับท่าน บางแห่งถ้าวาระเวรวาระกรรมของเขาเข้ามา บุคคลผู้เรียกหาไม่มีศีลไม่มีธรรม ก็อาจจะมี "ของแถม" ให้ด้วย..!"
กระผม/อาตมภาพนึกขึ้นมาทันทีถึง ๒ เรื่อง เรื่องแรกก็คือ วันก่อนที่มีการทำบวงสรวงที่ปราสาทนครวัด แล้วเกิดฟ้าผ่าขึ้นมา นั่นน่าจะเป็น "ของแถม" อีกเรื่องหนึ่งก็คือพระอาวุโสของวัดท่าซุงในอดีต ซึ่งอยู่ที่วัดท่าซุงมาก่อนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ จะไปอยู่ ที่พวกเราทันกันก็จะมีพระครูสังฆรักษ์อรุณ ตลอดจนกระทั่งหลวงตาผ่อง และหลวงตานา
อันว่าพระครูสังฆรักษ์อรุณที่ท่านนิมนต์หลวงพ่อไปอยู่วัดท่าซุงนั้น ก็เพื่อหวังที่จะให้หลวงพ่อเป็น "ผู้ปั๊มเงิน" ให้กับท่าน นี่พูดกันตรง ๆ แบบไม่ต้องอ้อมค้อม..! แต่เมื่อหลวงพ่อท่านทำบัญชีทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเงินเหลือถึง ภายหลังจึงมีการปลุก "ม็อบ" มาขับไล่หลวงพ่อท่านด้วย..!
ส่วนพระเก่าอีก ๒ รูปนั้นต้องบอกว่า "เก่าจนขึ้นรา" แล้ว ก็คือหลวงตาผ่องกับหลวงตานา อย่ากล่าวให้ชัดเลยว่าท่านฉายาอะไร ? หรือว่านามสกุลอะไร ? เนื่องจากลูกหลานของทั้งสองท่านยังมีชีวิตอยู่ ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะหลวงตาผ่อง ท่านพักอยู่ที่อาคารโรงเรียนทหารอากาศสงเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันนี้โดนรื้อทิ้งไปแล้ว เป็นอาคารที่ต่อเนื่องกับศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์
ถ้าหากว่าใครไปวัดท่าซุงในยุคของการเปิดศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ใหม่ ๆ บางคนก็เรียกศาลานี้ว่า "โรงเก็บเหล็ก" เพราะว่าเป็นสถานที่เก็บเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างวัดท่าซุง โดยมีองค์พระประธาน ตลอดจนกระทั่งรูปหล่อหลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่ศุข หลวงปู่ปาน ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อวัดท่าซุง อยู่ภายในนั้น จนเรียกว่าศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ ปัจจุบันนี้มีการสร้างรูปหล่อหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเพิ่มเติมเข้าไป กลายเป็นศาลาหลวงพ่อ ๕ พระองค์
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2025 เมื่อ 00:21
|