กระผม/อาตมภาพไม่ได้สลดใจแค่นักบวชลาพรต เพราะคิดว่าท่านอาจจะบวชน้อยเกินไป จนกระทั่งทำให้คุณงามความดีในพระพุทธศาสนายังไม่ทันจะซึมเข้าเลือดเข้าเนื้อของท่าน เมื่อไม่เห็นคุณงามความดีแล้วมาช่วยกันทำลายพระพุทธศาสนา ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของบุคคลที่ไม่มีความกตัญญู เนื่องเพราะว่าความกตัญญูนั้นไม่ใช่เฉพาะบุคคล หากแต่เกี่ยวข้องกับสถานที่ หรือว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่เคยมีบุญมีคุณกับเราด้วย ในเมื่อท่านเป็นคนอกตัญญูก็ช่างท่านเถิด..!
แต่บรรดาบุคคลที่คิดว่าตนเองเป็นพุทธศาสนิกชน แต่ว่ามา "คอมเม้นต์" อยู่ในลักษณะช่วยกันกระทืบซ้ำด้วยความสนุกสนาน อยากจะให้ท่านรู้เหลือเกินว่า สิ่งหนึ่งประการใดที่เราทำไป ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่ช้าก็เร็ว สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นจะย้อนกลับมาสนองตัวตนของท่านเอง ถึงเวลานั้น ท่านจะรู้สึกตัวก็อาจจะสายไปเสียแล้ว..!
องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงฝากภาระธุระในพระพุทธศาสนา เอาไว้กับพุทธบริษัททั้ง ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ปัจจุบันนี้ในสายเถรวาทของเราถือว่าไม่มีภิกษุณีแล้ว ครั้นจะสงเคราะห์แม่ชีเข้ามาด้วยก็ยาก เพราะว่าศีลต่างกันมากเหลือเกิน
ในส่วนของภิกษุก็กะพร่องกะแพร่ง ไม่เหมือนกับสมัยพุทธกาลที่มากไปด้วยพระอริยบุคคล แต่ถึงกระนั้น ในสมัยพุทธกาลเราก็ยังมีพระเทวทัต มีพระโกกาลิกะ มีพระอุปนันทศากยบุตร เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา จนกระทั่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องบัญญัติศีลขึ้นมาถึง ๒๒๗ ข้อ เราท่านจะเห็นว่าแม้ในสมัยพุทธกาล คนเราก็ยังเป็นคน ตราบใดที่เป็นปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส ถ้าไม่สามารถที่จะหักห้ามใจตนเองได้ ท้ายที่สุดก็จะต้องทำผิดทำพลาด แล้วก่อให้เกิดความเสียหายกับตนเอง หรือว่าพระพุทธศาสนาที่เป็นส่วนรวม
แต่ว่าท่านทั้งหลายที่เป็นอุบาสก อุบาสิกา มีหน้าที่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา นอกจากด่าเอามัน ด่าเอายอดไลค์แล้ว ท่านทั้งหลายได้สร้างสิ่งหนึ่งประการใดที่เป็นคุณูปการกับพระพุทธศาสนาบ้าง ? นอกจากเอาแต่ด่าอย่างเดียวว่าคนอื่นทำผิดทำพลาด แล้วการป้องกันไม่ให้คนทำผิดทำพลาดนั้นเป็นอย่างไร ท่านทั้งหลายเคยชี้แจงบ้างหรือไม่ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2025 เมื่อ 02:41
|