เหตุการณ์นี้ก็ได้ส่งผลให้มีเหตุอัศจรรย์ ที่พระอรรถกถาจารย์ได้พรรณนาเอาไว้ในโพธิสัตตธัมมตาวรรณา อรรถกถา ทีฆนิกายมหาวรรค เป็นต้นว่า..
หมื่นโลกธาตุเกิดความสะท้านสะเทือนหวั่นไหว เหล่าเทพในจักรวาลก็ได้ทำการสันนิบาต แม้แต่คนวิปลาสก็ได้สติระลึกรู้ คนที่พิการ แม้จะเป็นทางสายตา ทางหู ก็พลันมองเห็น ได้ยินเสียง นี่เป็นบุรพนิมิตแห่งการเสด็จอุบัติของพระโพธิสัตว์ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระบารมี ผู้ที่จะยังโลกนี้และเทวโลกให้หายโศกหายเศร้า ให้บรรเทาความลุ่มหลงมืดมน ด้วยสาดแสงแห่งพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ นี่ก็คือเหตุอัศจรรย์ครั้งที่ ๑ ซึ่งเกิดในวันเพ็ญเดือน ๖ ซึ่งก็คือวัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ นั่นเอง
ครั้นเวลาล่วงเลยจากนั้นมา ๒๙ ปี พระบรมโพธิสัตว์ก็เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์สู่ป่า เพื่อที่จะเสาะแสวงหาซึ่งโมกขธรรม ก็ได้ท่องเที่ยว ตรากตรำคลำหาเส้นทางสู่ความหลุดพ้น เฝ้าคิดค้นศึกษาทดลองในสำนักของอาจารย์ทั้งสอง ซึ่งก็คือ อาฬารดาบส กาลามโคตร และอุทกดาบส รามบุตร จนสิ้นสุดขอบเขตวิชาของอาจารย์ จึงได้ทรงตระหนักรู้ว่า นี่ก็ยังไม่ใช่หนทางสู่ความพ้นทุกข์
จึงได้เสด็จจาริกต่อไปเพื่อแสดงหาวิมุตติ ได้หยุดเข้าจำกระทำความพากเพียรอยู่ ณ อุรุเวลาเสนานิคม เขตแคว้นมคธ ได้ทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยาด้วยวิธีต่าง ๆ แต่ในที่สุดก็ทรงมั่นพระทัยได้ว่า นี่ก็ยังไม่ใช่หนทางที่ทรงประสงค์ จึงได้หยุดการทรมานพระวรกาย หันมาเสวยพระกระยาหารตามปกติ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 13-05-2025 เมื่อ 02:06
|