วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเพิ่งกลับจากงานศพของหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ (พูลศักดิ์ ปญฺญาวุโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขื่อนวชิราลงกรณ อดีตรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งไม่นึกว่าเขาจะลากงานยาวรวดเดียว ตั้งแต่การถวายน้ำสรงศพโดยคณะสงฆ์ ต่อด้วยญาติโยมทั้งหมด แล้วก็เป็นพิธีถวายน้ำสรงศพพระราชทาน จากนั้นเป็นพิธีบังสุกุลปิดศพ
ปกติแล้วเมื่อถึงช่วงนี้ก็จะพัก ไปสวดพระอภิธรรมถวายท่านตอนเวลาทุ่มครึ่ง แต่ด้วยความที่เจ้าภาพก็คือพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และ พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านก็อยู่ในพิธีแล้ว ท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ ตลอดจนกระทั่งหัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็อยู่พร้อมหน้า จึงให้มีปรับตารางด้วยการสวดพระอภิธรรมถวายท่านไปเลย ทำให้กระผม/อาตมภาพโดนลากงานยาวจนยาหมดฤทธิ์..! การที่ยาหมดฤทธิ์ทำให้เราต้องใช้สติประคับประคองตนเองมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทำสิ่งต่าง ๆ ถูกต้องตามขั้นตอนที่พิธีกรเขากำหนด
จะว่าไปแล้ว ก่อนหน้านี้กระผม/อาตมภาพเลิกฉันยามาหลายปีแล้ว เนื่องเพราะว่ายาบางอย่างออกฤทธิ์รุนแรงมาก แทบจะฆ่าเราตาย แต่ฆ่าเชื้อโรคไม่สำเร็จ บางอย่างฉันไปเม็ดเดียวเมาไป ๓๓ วัน..! แล้วยาตัวนี้มีการแตกตัวแบบที่เขาเรียกว่า "ฮาร์ฟไลฟ์" ก็คือพอครบจำนวนชั่วโมง ก็จะออกฤทธิ์แรงเท่าเดิมทุกวัน ในระหว่าง ๓๓ วันนั้นต้องใช้สติมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเพื่อไม่ให้ตัวเองเดินแล้วล้ม..!
ถ้าถามว่าเกินความสามารถของตัวเองหรือไม่ ? ก็ยังไม่เกินความสามารถ แต่ด้วยความที่ว่าฉันยามาหลายสิบปีแล้วไม่หาย กระผม/อาตมภาพจึงประชดชีวิต เลิกฉันยาทั้งหมด ปรากฏว่าร่างกายดีขึ้นมาก..! แต่หลังจากที่มาลาเรียกำเริบหนัก ๆ หลายรอบ เพราะว่าพักผ่อนไม่พอ ก็โดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านดุเอาว่า "ถ้าไม่ฉันยาแบบนี้ เดี๋ยวร่างกายจะพังเสียก่อน..!" ความหมายของท่านก็คือมียาก็ฉันไป เพื่อรักษาธาตุขันธ์เอาไว้ทำงาน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:11
|