แต่คราวนี้คนโบราณ กร กับ ตร เขาออกเสียงเดียวกัน อย่างเช่นว่าราชวงศ์จักรี ก็คือจักตรี หรืออย่างสมัยกระผม/อาตมภาพ ตำรวจยศสิบตำรวจตรี เขาเรียกว่าสิบตำรวจกรี หรือแม้แต่กรรไกร ก็เรียกว่ากรรไตร ดังนั้น คำว่ากรวดน้ำจึงกลายเป็นตรวจน้ำไปได้ เพราะว่าเป็นคำเดียวกัน
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ท่านทั้งหลายจะต้องระมัดระวังและศึกษาให้รอบคอบ ถ้าหากว่าสอนคนโดยไม่รู้จริง มีแต่อัตโนมติ ก็คือเอาความเห็นของตนเองเป็นใหญ่ ก็จะออกไปในลักษณะทำลายพระพุทธศาสนาเสียเอง ซึ่งโทษนั้นหนักมาก..!
แต่คาดว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นน่าจะโดนมารชักจูง ให้หลงไปในส่วนของ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ถึงได้ทำไปในลักษณะแบบนั้น เพราะว่าทำไปแล้วเหมือนกันว่าโด่งดัง มีชื่อเสียง มีผู้เคารพนับถือมาก มีลาภยศเข้ามา ซึ่งสิ่งทั้งหมดที่ว่ามานั้น ไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการบวชแม้แต่อย่างเดียว
สำหรับวัดท่าขนุนของเรากล่าวชัดไว้ นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา ข้าพเจ้าขอรับผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ส่วนไหนที่จะทำให้เราออกนอกลู่นอกทาง หรือว่าจะทำให้เราล่าช้า ก็อย่าไปยุ่งด้วยมากนัก
ดูง่าย ๆ ก็แค่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ เรายังยึดติดสิ่งหนึ่งประการใดหรือไม่ ?
ตายังอยากเห็นรูปที่ต้องการอยู่หรือไม่ ?
หูยังอยากได้ยินเสียงที่ต้องการอยู่หรือไม่ ?
จมูกอยากได้กลิ่นที่ต้องการอยู่หรือไม่ ?
ลิ้นอยากได้รสที่ต้องการอยู่หรือไม่ ?
กายยังอยากได้สัมผัสที่ต้องการอยู่หรือไม่ ?
และท้ายที่สุด ใจยังครุ่นคิดฟุ้งซ่าน ไม่สามารถที่จะหยุดความคิดของตัวเองได้หรือไม่ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:42
|