อีกส่วนหนึ่งก็คือการที่พระลามะ ตลอดจนกระทั่งสามเณรทั้งหลาย ฝึกฝนการเขียนภาพทังกา ปักภาพทังกา หรือว่าโรยทรายสร้าง "มันดาลา" หรือว่า "มณฑลพุทธเกษตร" นั้น หลายท่านเห็นแล้วอาจจะรู้สึกว่าพระเณรเรามาทำเรื่องอะไรแบบนี้ ? ทำไมไม่ให้ฆราวาสเขามาทำ ? ก็ขอให้ทุกคนนึกถึงหลวงปู่หลวงพ่อของเรา ซึ่งเขียนเลขเขียนยันต์ลบผงต่าง ๆ
แม้กระทั่งหลวงปู่เจี๊ยะ (พระครูสุทธิธรรมรังษี) วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม จังหวัดปทุมธานี ก็ใช้วิธีตีเหล็ก หรือว่าทุบหินสร้างถนนหนทาง สร้างทางจงกรม นั่นก็คือการปฏิบัติธรรมชั้นยอด โดยที่อาศัยสิ่งอื่นเป็นเครื่องโยง เพราะว่าต้องเข้าสมาธิในการที่จะเขียนภาพทังกา หรือว่าปักภาพทังกา ตลอดจนกระทั่งลงสี โรยทรายสร้างมันดาลา ถ้าสมาธิเสื่อมลงก็ต้องหยุดก่อน รอจนกระทั่งร่างกายไหวก็เข้าสมาธิทำใหม่
นั่นก็คือการซักซ้อมเข้าออกสมาธิ และเป็นสมาธิใช้งานเสียด้วย ดังนั้น..เราจะเห็นว่าบรรดาพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งองค์ลามะของทางด้านทิเบตก็ดี วัชรยานก็ตาม ที่ปฏิบัติกันวิธีนี้ ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับที่เรียกว่า "ใช้ได้เลย" ทั้งสิ้น เพราะว่าได้รับการฝึกฝนมากันแบบนี้เอง
หลวงปู่หลวงพ่อของบ้านเรา ที่ซักซ้อมเขียนเลขเขียนยันต์ให้เห็นอย่างชัดเจน อันดับแรกเลยก็หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท ท่านเองเขียนเลขเขียนยันต์ผลิตวัตถุมงคลกันข้ามวันข้ามคืน ไม่ยอมให้จิตคลายออกมาโดน รัก โลภ โกรธ หลง โจมตีได้
อีกท่านหนึ่งที่เห็นชัด ๆ หลวงปู่เจ้าคุณทอง (พระศีลมงคล) วัดสำเภาเชย จังหวัดปัตตานี กระผม/อาตมภาพนั่งคุยกับท่าน ท่านก็ถักเชือกถักตะกรุดของท่านไปเรื่อย สมาธิทรงตัวแน่วนิ่งดีมาก ๆ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2025 เมื่อ 03:40
|