ส่วนเช้านี้ ทางด้านคุณเอ (นายฉัตตริน เพียรธรรม) กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร์ นัดพวกเราพร้อมกันตอน ๗ โมงครึ่งที่ห้องอาหาร แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ทำอะไรไว แค่ประมาณ ๖ โมงเช้าของอินเดีย ก็ลงไปหามุมถ่ายรูปทั่วไปหมดแล้ว
ที่อัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้นก็คืออากาศ ๑๒ องศาเซลเซียสนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใส่กันหนาวอะไรเลย กลับรู้สึกว่าเย็นสดชื่นสบายมาก ก็ได้แต่น้อมจิตน้อมใจกราบขอบพระคุณท่านทั้งหลาย ที่ตั้งใจอนุเคราะห์สงเคราะห์ด้วยดีโดยตลอดมา
เมื่อเข้าไปในห้องอาหาร ก็เจอน้องการ์ตูน (นางสาวศรันย์พร บุรินทรโกษฐ์) กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ตามเคย พวกเราไม่ได้รออาหารของเขาที่จะเปิดให้รับประทานตามเวลา คือ ๗ โมงครึ่ง เนื่องเพราะรู้ดีว่าในเรื่องของคนอินเดียนั้น คุณอย่าไปตั้งความหวังอะไรกับเขามาก เพราะว่าทุกอย่างของเขาเหมือนกับเชื่องช้ากว่าเราหลายระดับ..!
เมื่อเห็นว่ามีอาหารที่พอจะฉันได้มาถึง กระผม/อาตมภาพก็จัดแจงตักมาฉันจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็ไปเดินหามุมถ่ายรูป และรับการทำบุญจากคณะญาติโยมตามเคย
ครั้นทุกคนพร้อมแล้ว ทางด้านน้องการ์ตูนได้ติดต่อให้รถตู้สองคัน มารับพวกเราในช่วงที่วิ่งเที่ยวอยู่ในเมืองศิมลานี้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขึ้นรถบัสไปติดอีรุงตุงนัง แต่ปรากฏว่าออกมาได้ไม่ไกลก็ติดชนิดไม่กระดิกเลย..! กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าตกลงวันนี้จะไปได้กี่ที่แน่ หลังจากที่ขยับกันทีละเล็กทีละน้อย เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ไปเจอตัวต้นเหตุ คือรถเกิดอุบัติเหตุชนกันขวางทางอยู่..!
เมื่อพวกเราแซงไปได้ ทุกอย่างก็ลื่นไหลตามปกติ มาจอดรถลงที่บริเวณหนึ่ง ซึ่งพวกเราเดินลงไปแล้ว นายวิกรมพาเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเดินที่ทำเอาไว้เป็นอย่างดี ปรากฏว่ามาถึงลิฟท์ขนาดใหญ่ ซึ่งบรรจุคณะของพวกเราทั้งหมด ๒๓ คนได้โดยไม่ได้อึดอัดอะไรมากนัก
เมื่อขึ้นไป ๑ ชั้น ซึ่งมีระยะทางสูงมาก ถ้าเป็นบ้านเราก็น่าจะถึง ๓ ชั้นทีเดียว..! เมื่อออกจากตรงนั้นมาแล้ว ก็เดินต่อไปขึ้นลิฟท์อีกตัวหนึ่ง ถึงจะขึ้นไปจนถึงจุดข้างบน ก็คือถนนสมัยที่อังกฤษครองเมืองอยู่ จัดว่าเป็นถนนสายสำคัญ ที่ให้เฉพาะพวกผู้ดีมีเงินเท่านั้นมาเดินช็อปปิ้งกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2025 เมื่อ 11:49
|