[เถรี]

หลายท่านก็เข้าใจผิด มีโยมผู้ชายอยู่ท่านหนึ่งอายุมากแล้ว เป็นโรคที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเอ็นยึด ตัวเอียงไปแถบหนึ่ง แกก็มาใส่บาตรอยู่ทุกวัน ๆ ประมาณหนึ่งเดือนแล้วก็หายไป

พอเจอหน้าอาตมาก็ถามว่า "ทำไมตอนนี้ไม่ไปใส่บาตรอีก ?" โยมตอบว่า "ใส่บาตรมาเป็นเดือนแล้ว ไม่เห็นหายป่วย ก็เลยเลิกใส่.." เรื่องเดียวกันหรือเปล่า..?! คนเราก็มักจะเข้าใจผิดอะไรได้ขนาดนี้เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น..ของบางอย่างถ้าหากว่าญาติโยมใช้อัตโนมติ ซึ่งคือความเห็นเฉพาะตัว บางทีก็พาเข้ารกเข้าพงไปเยอะ แต่ละคนก็มักจะคิดว่า ควรจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นอย่างนี้

ต้องไปดูในเทวตาสังยุตต์ ของสังยุตตนิกาย บรรดาเทวดา พรหม มาหาพระพุทธเจ้าตอนเที่ยงคืนไปแล้ว เทวดามักจะมาถามโน่นถามนี่ บางท่านก็มาอวดรู้ มาถึงก็กล่าวว่า "พระสมณโคดม เรามีภาษิตจักแสดง" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เทวะ..ดูก่อนเทวดา ภาษิตนั้นว่าอย่างไรหรือ ?"

เทวดาท่านก็บอกว่า "บุคคลผู้มีบุตรย่อมรื่นเริงเพราะบุตร บุคคลผู้มีโคย่อมรื่นเริงเพราะโค" พระพุทธเจ้าแย้มพระโอษฐ์ ไม่รู้ว่ายิ้มเยาะหรือเปล่า ? กล่าวว่า "บุคคลผู้มีบุตรย่อมเป็นทุกข์เพราะบุตร บุคคลผู้มีโคย่อมเป็นทุกข์เพราะโค" เทวดาเหี่ยวเป็นผักโดนน้ำร้อนลวกไปเลย..! ก็คือบางทีเป็นอัตโนมติก็คือความเห็นเฉพาะของเทวดาท่านนั้น

เห็นคนมีลูกก็ดีอกดีใจใช่ไหม ? มีวัวมีควายสมัยก่อนเขาถือเป็นทรัพย์สิน ก็ดีอกดีใจมีทรัพย์มาก ที่ไหนได้..พระพุทธเจ้าบอกว่าอะไรก็เป็นทุกข์หมดเลย..!

บรรดาเทวดา พรหม มาหาพระพุทธเจ้าตอนเที่ยงคืนไปแล้ว ตอนนั้นพวกเรานอนสบายแล้ว แต่พระพุทธเจ้ายังไม่ได้นอน เพราะว่าพุทธกิจ ๕ ประการก็คือ

ปุพฺพณฺเห ปิณฺฑปาตญฺจ เช้าขึ้นมาเสด็จออกบิณฑบาต โดยเฉพาะพิจารณาแล้วว่าจะไปสงเคราะห์ใครที่มีกรรมเนื่องกันมา มีบุญเนื่องกันมา

สายณฺเห ธมฺมเทสนํ ช่วงเย็นก็แสดงธรรมโปรดชาวบ้าน