เมื่อบอกลาจากพระครูอ้ำแล้ว พวกเราก็ขึ้นรถตรงไปยังร้านอาหาร ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นบาร์เบียร์มากกว่า..! บรรยากาศมืดสุด ๆ เนื่องเพราะว่าน่าจะขายของในตอนกลางคืน นั่งรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ กว่าที่กับข้าวแต่ละอย่างจะมาถึง
เมื่อมาถึง พวกเราลงมือฉันกันไปเลย ญาติโยมก็กินกันไปเป็นการใหญ่ กับข้าวออกไปได้แล้ว ๔ อย่าง จึงให้น้องการ์ตูนไปถามว่า "มีข้าวหรือไม่ ?" พอกับข้าวอย่างที่ ๕ มาถึง ข้าวสวยถึงได้ตามมา ผศ., ดร.พระครูโรจน์ ชี้จานกับข้าวที่ว่างเปล่า พลางบอกว่า "เขาน่าจะเหลือข้าวไว้ให้เรากินกับน้ำพริก..!" ส่วนกับข้าวที่ตามหลังมาอีก ๓ - ๔ อย่างนั้น พวกเราไม่มีปัญญาที่จะฉันกันแล้ว จึงได้บอกกับน้องการ์ตูนว่า ให้ช่วยห่อกลับไปด้วย เผื่อมีใครกินข้าวเย็น
เมื่ออิ่มหนำสำราญกันชนิดล้นคอหอย พวกเราเดินออกจากร้านอาหาร ก็เลี้ยวขวาไปไม่ถึง ๑๐๐ เมตรดี เป็นวัดกาลจักร ซึ่งเป็นวัดของนิกายวัชรยานแบบทิเบต พวกเราเข้าไปกราบสักการะพระสถูปเจดีย์ ตลอดจนกระทั่งพระพุทธรูปพระประธาน เนื่องเพราะว่าสถานที่หายากและจำกัด แม้แต่พระสถูปเจดีย์ก็อยู่ในที่แคบจนเดินวนรอบเพื่อทำประทักษิณไม่ได้
ครั้นถ่ายรูปหมู่กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ตกลงกันว่า ใครจะเดินช็อปปิ้งละลายทรัพย์ก็เดินอยู่ในบริเวณนี้ แล้วกลับมาที่ตรงหมู่ต้นสนสามแยก ส่วนใครที่จะนั่งรถกระเช้าดูวิว ก็เดินไปยังสถานีรถกระเช้า แล้วกลับมาให้ทันตอนบ่าย ๒ โมง ทางกระผม/อาตมภาพ หลวงพ่อนิล และท่านพันแสน ตลอดจนกระทั่งญาติโยมกลุ่มใหญ่ อาสาไปนั่งรถกระเช้าหาประสบการณ์กัน ส่วนที่เหลือก็แห่ไปช็อปปิ้งกันสนั่นลั่นตลาดไปเลย..!
เมื่อไปถึงแล้ว มาดามชวง (นางสาวไพรินทร์ สุวิชชาญพันธุ์) ได้ถวายตั๋วขึ้นรถกระเช้าให้กระผม/อาตมภาพ หลวงพ่อนิล และท่านพันแสนด้วย ซึ่งราคา ๗๕๐ รูปี/รูป แต่ว่ากระเช้านั้นวิ่งได้ช้าสุด ๆ ไม่ทราบเหมือนกันว่าตั้งใจให้ดูวิวอย่างแท้จริงหรืออย่างไร ? แต่ด้วยความที่ปิดทึบ มีเพียงรูระบายอากาศเล็ก ๆ เท่านั้น เมื่อรถกระเช้าเลื่อนไปช้า ๆ จึงทำให้อากาศร้อนอบอ้าวมาก ใช้เวลาถึง ๒๐ กว่านาทีกว่าที่จะไปถึงปลายทาง พวกเราก็เลยต้องไปลงทะเบียนนั่งรถกระเช้ากลับ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่ทันเวลานัด..!
ระหว่างที่ไปกลับนอกจากได้เห็นวิวทิวทัศน์สวย ๆ แล้ว ยังเห็นว่าลานจอดรถที่เราคิดว่าอยู่บนพื้นดิน ซึ่งพ่อค้ามาช่วยไล่ขอทานนั้น ปรากฏว่ายังมีตึกลงไปข้างล่างอีก ๗ ชั้น..! แสดงว่าเขาต้องใช้พื้นที่ราบทุกตารางนิ้วให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะว่าพื้นที่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นภูเขาทั้งสิ้น..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:54
|