วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่เมืองธรรมศาลาช่วงเช้าอยู่ที่ ๑๗ องศาเซลเซียส
เมื่อวานนี้ที่ร้านอาหารนั้น พวกเราได้ฉันและรับประทานกันอิ่มหนำสำราญมาก ข้าวปลาอาหารที่เขานำมาให้พวกเรา เป็นเพราะว่ารู้ว่าพวกเรามาจากเมืองไทยหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ? ถ้วยแรกก็คือ "ต้มยำกุ้ง" แต่เขาทำมารสอ่อน จนกลายเป็นซุปสำหรับกินก่อนอาหารมื้อหลัก
ในส่วนอื่น ๆ ก็ยังมี "ยำมะละกอ" ซึ่งก็คือ "ส้มตำ" ของบ้านเรานั่นเอง คาดว่าเป็นการศึกษาจากยูทูบ หรือว่าเห็นคนอื่นเขาทำแล้วทำตาม ดังนั้น..ส้มตำจึงมีเครื่องขาด ๆ เกิน ๆ โดยเฉพาะรสชาติยังห่างไกลจากบ้านเรา ๘๔,๐๐๐ ลี้เป็นอย่างน้อย..! แต่กระผม/อาตมภาพก็กวาดจนหมดเกลี้ยง เนื่องเพราะว่าเป็นผัก ซึ่งตนเองนั้นถนัดในเรื่องฉันผักผลไม้มากกว่า
อาหารหวานนั้นมี "กุหลาบจามุน" ซึ่งเป็นของหวานขึ้นชื่อของทางประเทศอินเดีย แต่พวกเราส่วนหนึ่งซึ่งเกรงความหวานกัน จึงพยายามที่จะหลีกเลี่ยง โต๊ะของกระผม/อาตมภาพซึ่งมีพระอยู่ ๔ รูป ก็คือมีหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร ท่านพันแสน (พระอธิการธรรมชัย อคฺคธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดศิลาวาส (ปิงโค้ง) จังหวัดเชียงใหม่
แล้วก็พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ., ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน จังหวัดนนทบุรี จึงได้สั่งกุหลาบจามุนมาแค่ ๒ ถ้วย ซึ่งก็มีถ้วยละลูกเดียวเท่านั้น ทำการแบ่งครึ่งกันอย่างยุติธรรม มีเสียงฉันไปบ่นไปว่า "หวานตัดขากันเลย..!"
เมื่ออิ่มแล้ว พวกเราก็ได้เดินทางออกจากรัฐปัญจาบ มุ่งหน้าไปทางรัฐหิมาจัลประเทศของอินเดียตอนเหนือ การเดินทางในช่วงแรกก็ยังไม่กระไรนัก แต่พอมาหยุดทำหนังสือเพื่อผ่านรัฐเข้าไป หนทางก็เริ่มคดเคี้ยวขึ้นเขา
จากจุดประมาณพักกึ่งกลางทาง ที่พวกเราแวะเข้าห้องน้ำและเติมกาแฟกันสำหรับบางคนแล้วนั้น หนทางต้องบอกว่าเละเทะมากเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่ารัฐบาลอินเดียพยายามที่จะเร่งรัดสร้างหนทางในรัฐชายขอบนี้ ให้มีสาธารณูปโภคที่สะดวกสบาย แต่การก่อสร้างไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นโครงการ ๗ ชั่วโคตรแบบถนนพระราม ๒ บ้านเราหรือไม่ ? ทั้ง ๆ ที่ขึ้นเขาลงห้วย แล้วยังมีการก่อสร้างแบบนี้เข้าไปอีก จึงทำให้รถไม่สามารถที่จะทำความเร็วได้ แถมยังกระแทกกระทั้นกันไปโครม ๆ อีกต่างหาก..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:20
|