ก่อนสวดพระอภิธรรม สะเดาะเคราะห์ บังสุกุลอัฐิอุทิศส่วนกุศล วันจันทร์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๘
ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ โดยปกติทุกวันที่ ๑๔ เมษายน ทางวัดจะมีการสวดพระอภิธรรม ๗ บท และบังสุกุลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับญาติพี่น้องของทุกท่านที่ได้ล่วงลับไปแล้ว
ในส่วนของพระอภิธรรม ๗ บทนั้นมีอานุภาพมาก ถึงขนาดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก พิจารณาว่าเราจะตอบแทนค่าน้ำนมและคำข้าวที่มารดาเลี้ยงดูเรามาอย่างไรถึงจะสมควร ? แล้วก็เห็นว่าพระอภิธรรมทั้ง ๗ บทนั้น เป็นสิ่งที่ทรงค่าที่สุด
พระองค์ท่านถึงได้นำไปเทศน์สอนพุทธมารดาจนบรรลุพระโสดาบัน แล้วยังมีพรหมเทวดาอีก ๘๐ โกฏิบรรลุตามไปด้วย ถ้าหากว่าเราใช้มาตราปัจจุบัน ไม่ไปนับตามมาตราโบราณ ตีง่าย ๆ ว่า สิบล้านเป็นหนึ่งโกฏิ ถ้าเป็นมาตราโบราณเขาจะนับ สิบล้านเป็นหนึ่งตึ่ง สิบตึ่งเป็นหนึ่งตื้อ สิบตื้อเป็นหนึ่งอสงไขย ไม่รู้เรื่องใช่ไหม..? พูดไปเหอะฟังอย่างเดียว..!
พระอภิธรรม ๗ บทจึงเป็นธรรมะที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วมีผู้บรรลุมรรคผลมากที่สุด
สมัยก่อนแม้แต่ในบ้านเราเมืองเรา ก็ใช้การสวดพระอภิธรรมในงานมงคลต่าง ๆ อย่างเช่นว่างานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานฉลองอายุ เหล่านี้เป็นต้น แต่ภายหลังเมื่อมีงานพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวีในรัชกาลที่ ๕ ซึ่งพระมหาเถระทรงถวายพระอภิธรรม ๗ บทในงานพระบรมศพครั้งนั้น ทำให้ชาวบ้านเห็นเป็นค่านิยมว่าพระอภิธรรม ๗ บทควรที่จะใช้สวดในงานศพ
จากเรื่องมงคลจึงกลายเป็นอวมงคล ทำให้เราท่านทั้งหลายไปเข้าใจว่าพระอภิธรรม ๗ บทหรือพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์นั้นมีไว้ใช้สวดเฉพาะในงานศพ ของดีที่สุดก็เลยกลายเป็นของที่คนเกรงกลัวกันไป เพราะว่ามนุษย์และสัตว์มีความกลัวตายเป็นปกติ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : วันนี้ เมื่อ 01:01
|