วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อวานนี้เป็นอะไรที่ชีวิตวุ่นวายเป็นพิเศษ ขนาดเวลา ๑๘.๑๐ น. ของประเทศอินเดียเขาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว แม้ว่าเวลาออกคือ ๑๘.๐๐ น. พวกเราก็ยังพอให้อภัย เนื่องเพราะถือว่าล่าช้าเพียงเล็กน้อย
แต่พอขึ้นไปบนเครื่องแล้วกลับไม่ขยับขยายไปไหนเลย จนถึงเวลาทุ่มกว่าซึ่งควรจะเป็นเวลาที่ไปถึงเมืองอมฤตสาร์แล้ว เริ่มมีผู้โดยสารโวยวายประท้วง และตะโกนด่า..! ทำให้กัปตันน่าจะทนความวุ่นวายไม่ไหว จึงออกเครื่องเพื่อบินไปยังอมฤตสาร์ ทันทีที่เครื่องเริ่มวิ่งบนรันเวย์ คนด่าก็ตบมือกันเกรียว รู้สึกว่าพลิกอารมณ์ได้เร็วจนกระผม/อาตมภาพตามไม่ทัน เพิ่งจะตะโกนด่าอยู่ดี ๆ เปลี่ยนไปตบมือชมเชยกันเสียแล้ว..!
พวกเรามาถึงเมืองอมฤตสาร์เวลา ๒ ทุ่มเศษ กว่าที่จะรับกระเป๋าได้ครบถ้วน มาขึ้นรถที่รออยู่ก็เป็นเวลา ๓ ทุ่มเศษแล้ว ซึ่งผู้ที่รออยู่ก็น่าจะรอจนเบื่อหน่ายเหมือนกัน เป็นรถบัสคันใหญ่ ดูจากเปลือกนอกแล้วก็สวยงามตาทีเดียว แต่พอขึ้นไปทุกคนก็ผงะ เพราะว่าอากาศภายในรถร้อนพอ ๆ กับเตาอบไมโครเวฟ..! ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศกันอยู่พักใหญ่ กว่าที่พอจะทนกันได้ แล้ววิ่งสั่นงั่ก ๆ เหมือนชายชราอายุ ๘๐ ปี ไปยังโรงแรมที่พัก..!
คุณเอ (นายฉัตตริน เพียรธรรม) กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร์ ทั้งที่ป่วยมาจากประเทศศรีลังกา เพราะว่านำลูกทัวร์ไปกราบสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว แล้วเจอกับอากาศเปลี่ยนแปลงหนัก ซ้ำยังโดนฝนอีกด้วย เป็นหวัดเสียจนไม่มีเสียงแล้ว ก็ยังพยายามที่จะอธิบายให้พวกเราได้ทราบว่า เมืองอมฤตสาร์นี้ ชื่อจริง ๆ ถ้าเป็นภาษาไทยก็คืออมฤตสาคร ก็คือน้ำอมฤตนั่นเอง
เนื่องจากว่าคนอินเดียออกเสียงสั้นไปหน่อย พวกเราฟังไม่ทัน แม้กระทั่งฝรั่งก็เขียนเป็นอมฤตสาร์ เนื่องเพราะว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งของสุวรรณวิหาร ซึ่งเป็นโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะมากที่สุดของพี่น้องชาวซิกข์อยู่ด้วย
เมืองอมฤตสาร์นี้ตั้งอยู่ในรัฐปัญจาบ คำว่า ปัญจาบ ในที่นี้ก็คือปัญจะอาโป ก็คือน้ำ ๕ แห่ง หมายถึงแม่น้ำ ๕ สายที่ไหลจากเทือกเขาหิมาลัย ผ่านรัฐนี้ลงไปหล่อเลี้ยงประเทศอินเดีย เมื่อพูดตามภาษาของเขากลายเป็นรัฐปัญจาบ ซึ่งความจริงต้องเป็นปัญจะอาโป ทำให้เข้าใจเลยว่า เรื่องของภาษานั้น ถ้าไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ เราจะไม่มีวันออกเสียงได้ถูกต้อง เนื่องเพราะว่าเวลาเขาออกเสียงควบ เราก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 04:09
|