เมื่อพวกเราฝากกระเป๋าเสร็จ ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงของทางประเทศอินเดีย แม้ว่าเวลาจะช้ากว่าเมืองไทยชั่วโมงครึ่งก็ตาม แต่พวกเราก็หิวไส้แขวนไปตาม ๆ กัน จึงเดินไปหาศูนย์อาหาร รออยู่เป็นเวลาค่อนข้างนาน กว่าที่จะได้ผัดหมี่แบบอินเดียมา แต่ว่ารสชาติอร่อยใช้ได้ ส่วนไก่ทันดูรีนั้น ยกให้กับท่านพันแสน (พระอธิการธรรมชัย อคฺคธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดศิลาวาส (ปิงโค้ง) ไปฉันแทน
ส่วนท่านอาจารย์นิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตรนั้น ท่านฉันมังสวิรัติ ทำเอากระผม/อาตมภาพขำก๊ากไปเลย..! บอกว่ามาประเทศอินเดีย จะหาอาหารที่ไม่ใช่มังสวิรัตินั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก แต่ถ้าฉันมังสวิรัติกลับเป็นเรื่องที่หาได้ง่ายมาก ๆ
เมื่ออิ่มแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไปดูที่จอแสดงประตูขึ้นเครื่อง ปรากฏว่าเที่ยวบินของเรานั้น ย้ายไปอยู่ที่ประตู 42C จากที่ตอนแรกเป็นประตู 27B จึงได้เดินทางล่วงหน้าไปก่อน ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลมาก ต้องลงบันไดไปถึง ๒ ชั้นด้วยกัน กว่าจะไปถึงหน้าประตูขึ้นเครื่อง รอแล้วรอเล่าจนได้เวลาเรียกขึ้นเครื่อง ก็ไม่เห็นมีคนมา จึงได้โทรไปหาน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ปรากฏว่าทั้งหมดไปรออยู่ที่ประตู 27B ตามที่เครื่องอัตโนมัติออกให้ จึงแจ้งให้ทุกคนมาเป็นการเร่งด่วน..!
แต่มาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ให้ลงมาประตูขึ้นเครื่อง เนื่องเพราะว่าตอนนี้ผู้โดยสารแออัดยัดเยียดกันแน่นไปหมด รอจนผู้โดยสารทางประตู 14A และประตู 14B ขึ้นเครื่องของตนไปเรียบร้อย มีที่ว่างให้หายใจแล้วถึงได้ปล่อยลงมา ลงมาถึงก็ได้เวลาขึ้นเครื่องของประตู 14C พอดี..!
พวกเรานั่งรถบัสไปเป็นเวลา ๑๐ กว่านาที ก็ไปขึ้นเครื่อง Air India ที่ทางหัวสนามบิน ไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ? เพราะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตรวจสอบบนเครื่องบิน ๒ รอบ ๓ รอบ แล้วเลยเวลาขึ้นเครื่องไปเกือบ ๕๐ นาที กว่าที่เครื่องจะ taxi ออก จนกระทั่งบินไปได้ระยะหนึ่ง กระผม/อาตมภาพได้ยินประกาศว่า "อีกประมาณ ๑๐ กว่านาทีก็จะลงสู่สนามบิน" คิดว่าเป็นสนามบินอมฤตสาร์ แต่ปรากฏว่าลงมาแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ลงจากเครื่อง จึงได้ปรารภกับ ผศ.ดร.พระครูโรจน์ว่า ระยะนี้เรื่องก่อการร้ายเป็นเรื่องใหญ่ของทางประเทศอินเดีย คาดว่ามีผู้ต้องสงสัยขึ้นเครื่องมา จึงต้องรอจนกว่าตำรวจจะมาเอาตัวไป..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:16
|