ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 27-04-2025, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,281 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วฝีมือที่โยมแม่มีอยู่ ซึ่งกระผม/อาตมภาพทำไม่ได้เลย ก็คือการโกนหัวเด็กอ่อนด้วยมีดโกน มีดโกนสมัยก่อนเป็นมีดโกนที่ตัวมีดและด้ามมีดเป็นชิ้นเดียวกัน ต้องใช้ลับกับแผ่นหนัง แล้วค่อยใช้โกนศีรษะ กระผม/อาตมภาพขนาดใช้ใบมีดโกนซึ่งมีตัวกันบาดในสมัยปัจจุบันนี้ เมื่อโกนหัวตัวเองก็ยังบาดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน..! แต่ว่าโยมแม่ซึ่งโกนหัวเด็กอ่อน ที่กระหม่อมยังเต้นตุบ ๆ เพราะว่าแผ่นกระดูกยังปิดไม่มิด กลับมือเบาชนิดที่โกนได้โดยที่ไม่มีบาดแผลอะไรเลย..!

อีกอย่างหนึ่งก็คือโยมแม่เจาะหูเด็กเก่งมาก สมัยก่อนจะมีการเอาเข็มเย็บผ้านี่แหละ เสียบเอาไว้ในขิงแก่ ๆ ทิ้งไว้สักชั่วโมง ๒ ชั่วโมง เพื่อให้ฆ่าเชื้อก่อน จากนั้นก็ร้อยด้ายแดงเพื่อทำการเจาะหูเด็ก โยมแม่มือเบาแล้วก็ว่องไวมาก ทำให้เจาะหูเด็กได้ โดยที่เด็กบางทีไม่ทันรู้ตัว บางคนก็รู้สึกเจ็บแปลบเดียว ไม่ทันคิดจะร้องไห้เสียด้วยซ้ำไป..!

เมื่อเจาะผ่านไปแล้วก็ตัดด้ายแดงนั้น แล้วก็ผูกเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้รอยเจาะนั้นตัน แล้วก็ต้องจับขยับอยู่ทุกวัน เพื่อที่จะไม่ให้รอยเจาะนั้นติดกลับเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันอีก สมัยก่อนเด็กคนไหนเจาะหูเพื่อนก็จะรู้ เพราะว่าจะมีด้ายแดงร้อยแล้วผูกเป็นวงเอาไว้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น บรรดาผู้หญิงท้อง ส่วนใหญ่เมื่อได้หมอตำแยที่มีความสามารถพิเศษ ก็จะคลอดลูกได้อย่างปลอดภัย และมีการแนะนำให้ "อยู่ไฟ" แนะนำให้กินอาหารที่ทำให้มีน้ำนมมาก ลูก ๆ จะได้มีนมพอกิน เพราะว่าสมัยก่อนนั้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว มายุคหลัง ๆ เริ่มมีนมผงกระป๋องตราหมีขึ้นมา ทำให้แม่ส่วนหนึ่งหันไปเลี้ยงลูกด้วยนมกระป๋องแทน เด็ก ๆ รุ่นหลัง ๆ ก็เลยโตมาด้วยนมวัว

อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ก็เลยมีนิสัยดื้อของวัวของควายติดมาด้วย..! ไม่เหมือนกับเด็กสมัยก่อนที่ร้อยละ ๙๙.๙๙ มักจะเชื่อฟังพ่อแม่ครูบาอาจารย์ แต่เด็กรุ่นหลัง ๆ ที่โตมาด้วยนมวัว เอานิสัยวัวควายมาใช้หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ? ก็เลยทำให้ดื้อด้านกันนักหนา ตีกันจนไม้หักก็ยังไม่ค่อยที่จะกลัวเกรง..!

ในเมื่อมีการเลี้ยงเด็กด้วยนม ก็จะต้องกินอาหารร้อน เพื่อที่จะไม่ให้นมหยุดไหล ก็จะมีการแกงเลียงใส่พริกไทยเยอะ ๆ หรือไม่ก็ต้มข่าไก่ เหล่านั้นเป็นต้น แล้วการอยู่ไฟก็ต้องอยู่ในห้องที่ปิดทึบ ไม่ให้ลมเข้า ต้องอบต้องย่างอยู่บนเตาไฟ เพื่อที่ไม่ให้กระทบกับความเย็น ซึ่งการกระทบความเย็นนั้นเป็นโรคที่รักษายากสุด ๆ กระทบร้อนแค่กินยาแก้ร้อนในก็หายแล้ว แต่กระทบเย็น บางทีรักษากันเป็นเดือนเป็นปีก็ไม่หาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2025 เมื่อ 04:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา