ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 24-04-2025, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ในฐานะคณะกรรมการอำนวยการในการสอบบาลีสนามหลวง (ครั้งที่ ๒) ประจำปี ๒๕๖๘ (วันที่ ๒)

สำหรับวันนี้ เรามากล่าวถึงการ "เล่าความหลัง" กันต่อไป เมื่อวานได้เล่าไปถึงเรื่องเรือนชานบ้านช่อง ที่ส่วนใหญ่เป็น "เครื่องผูก - เครื่องสับ" ก็คือไม่ได้ใช้ตะปู ไม่ได้ใช้การเข้าลิ้นเข้ารางต่าง ๆ เพราะว่าไม่ได้ใช้ "ไม้จริง"

คำว่า "ไม้จริง" ก็คือ ไม้กระดานที่เลื่อยออกมาจากต้นไม้ต่าง ๆ ซึ่งในสมัยนั้นก็จะมีเลื่อยที่เรียกว่า "เลื่อยอก" ต้องใช้คนสองคนช่วยกันชัก คนหนึ่งดึง คนหนึ่งผลัก ตัวเลื่อยจะกว้างเกือบ ๆ ๑ ฟุต แต่ว่ายาวน่าจะถึง ๓ เมตร เพราะว่าบางทีเจอต้นไม้ใหญ่ ๆ ซึ่งล้มลงมาแล้วยังสูงท่วมหัวผู้ใหญ่ ก็จะได้เลื่อยออกมาเพื่อใช้งานได้

แต่ว่าถ้าเป็นการโค่นต้นไม้เพื่อที่จะมาเลื่อยโดยตรง ก็จะเป็นการผิดกฎหมาย ดังนั้น..ชาวบ้านจึงใช้การหา "ไม้ล้มขอนนอนไพร" ที่เรียกกันว่า "ไม้แก่นล่อน" ก็คือล้มตายมานานแล้ว จนกระทั่งผุพังเหลือแต่แก่น ในส่วนของเปลือกและกระพี้ ผุล่อนไปหมดแล้ว เอามาเลื่อยเพื่อที่จะทำเป็นต้นเสาบ้าง เป็นไม้กระดานบ้าง กว่าที่จะพอทำข้างฝา หรือว่าทำเตียงทำโต๊ะอะไรสักอย่างหนึ่ง บางทีก็ต้องสะสมไม้กันอยู่หลายปีทีเดียว..!

แล้วการเลื่อยไม้นั้นก็จะเลื่อยกันเฉพาะตอนที่ว่างจากงานไร่งานนาเท่านั้น การใช้ไม้ไผ่หรือว่าหวาย ในการทำบ้านแบบ "เครื่องผูก - เครื่องสับ" จึงเป็นเรื่องที่สะดวกที่สุด เพียงแต่ว่าให้ระวังฟืนไฟเอาไว้หน่อยเท่านั้น

เครื่องใช้ไม้สอยในบ้านยุคนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหม้อดิน มีทั้งหม้อดินที่ใช้หุงข้าว และใช้ในการต้มแกงต่าง ๆ จะต้องเป็นบุคคลที่มือไม้เบามาก เพราะว่าถ้าหากว่ามือไม้หนัก หม้อดินก็จะแตก..! และดูความขยันของลูกสาวแต่ละบ้านได้จากหม้อดิน บ้านไหนถ้าหุงข้าวแล้วขัดล้างหม้อดินจนใหม่เอี่ยม ก็ถือว่าเป็นบ้านที่มีลูกสาวขยัน เอางานเอาการ ถ้าหากว่าหม้อดินก้นดำปี๋ มีแต่ควันไฟเขม่าไฟติด เขาก็จะรู้ว่าลูกสาวบ้านนี้ขี้เกียจ..!

หรือบางทีก็ไปแอบฟังเสียงตำน้ำพริกอยู่ใกล้ ๆ บ้านนั้น ถ้าเสียงตำถี่ ๆ ไม่หยุด ก็จะได้รู้ว่าเป็นคนเอางานเอาการ ถ้าตำแบบประมาณ "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง" ก็ตราหน้าได้เลยว่าลูกสาวบ้านนี้ขี้เกียจ ไม่เอางานเอาการอะไรเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2025 เมื่อ 00:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา