เรื่องพวกนี้นอกจากที่ต้องใช้สติ ระลึกรู้อยู่เสมอว่าเราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ต้องใช้สมาธิเพื่อระงับยับยั้งตนเองไม่ให้ตกไปในทางที่ชั่ว ยังต้องมีปัญญาเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะได้พินิจพิจารณากระทำในสิ่งที่สมควรต่อภาวะของตน
อย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านกล่าวเสมอว่า "รู้จักหน้าที่ ทำตามหน้าที่ อย่าทำเกินหน้าที่ และอย่าละทิ้งหน้าที่" ซึ่งฟังดูแล้วเหมือนกับง่ายแต่ไม่ใช่ของง่าย เพราะว่าแต่ละคนไม่ได้มีหน้าที่อย่างเดียว
หลายคนอายุมากเป็นปู่เป็นย่า เป็นตาเป็นยาย เราทำหน้าที่ปู่ยาตายายได้ดีแล้วหรือยัง ? บางคนเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่เป็นป้า เป็นน้าเป็นอา เราทำหน้าที่ของความเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่เป็นป้า เป็นน้าเป็นอาดีแล้วหรือยัง ? บางคนเป็นลูก บางคนเป็นหลาน เราทำหน้าที่ของความเป็นพี่น้องลูกหลานดีหรือยัง ? แล้วส่วนใหญ่ก็มีครอบครัว เราทำหน้าที่ต่อครอบครัวดีแล้วหรือยัง ?
หลักเกณฑ์หลักการทั้งหลายเหล่านี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเอาไว้หมดแล้ว ว่าแต่ละคนอยู่ในตำแหน่งหน้าที่อะไร ? สมควรที่จะประพฤติปฏิบัติตนอย่างไร ? ถ้าอยากรู้ไปเปิดดูในเรื่องสิงคาลกสูตร หรือไม่ก็พิมพ์ไปค้นไนกูเกิ้ลว่า ทิศทั้ง ๖ แล้วก็จะรู้ว่าเราต้องปฏิบัติอย่างไรถึงจะถูกต้องตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2025 เมื่อ 00:35
|