ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย วันอาทิตย์ที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๘
ที่เหลือไปไหนกันหมด ? เรื่องของการปฏิบัติธรรม ครูบาอาจารย์บางท่านใช้ว่า "ทำหน้าที่" ในเมื่อเป็นหน้าที่ก็แปลว่า เป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ คราวนี้การที่พวกเราจะรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต้องใช้คำว่า ทำให้ดีที่สุด แต่ดูจากที่นั่งที่ว่างเสีย ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ดูท่าว่าจะทำหน้าที่ไม่ได้เรื่อง..! เรื่องพวกนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์เป็นอย่างดีว่า กำลังใจของเราคู่ควรต่อการปฏิบัติธรรมหรือไม่ ?
ครูบาอาจารย์สายวัดป่า ท่านบอกไว้ว่า "ธรรมะอยู่ฟากตาย" ก็คือจะต้องแลกกันด้วยชีวิต แม้แต่ในพระไตรปิฏก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดเจนว่า "พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต และพึงสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต เพื่อรักษาธรรม"
ดังนั้น..ต่อให้พวกเราทุกคนมีกำลังใจที่ถือว่าอยู่ในด้านดี ก็คือแม้ว่าจะเป็นช่วงสงกรานต์ ที่คนอื่นเขาถือว่าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ว่าพวกเรามาปฏิบัติธรรมกัน แต่ก็อยู่ในลักษณะที่ว่าเป็นการอยู่ในส่วนของการคัดเลือก ก็คือจัดลำดับตัวเองด้วยการกระทำ ว่าตัวเราเองอยู่ใกล้ไกลต่อมรรคผลเท่าไร ?
บุคคลที่ยิ่งใกล้ต่อมรรคผล กำลังใจในการตัดละจะยิ่งเข้มข้น ประเภทนี้จะมุ่งตรงอย่างเดียวโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างแล้ว ทำอะไรก็รวดเร็วกว่าคนอื่นเขา เพราะว่าสิ่งที่ให้ห่วงให้พะวง สิ่งรกรุงรังมีน้อย เป็นคนตัวเบา ก็คือเบาด้วยการปล่อยวางภาระต่าง ๆ ลงไปได้มาก
ส่วนท่านทั้งหลายที่รอจนถึงเวลาแล้วค่อยมา ไม่ใช่คนตรงเวลา หากแต่ว่าเป็นบุคคลที่ยังเชื่องช้าอยู่ ที่องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสเอาไว้ว่า "เราเป็นผู้ไม่ปรารถนาในธรรมอันเนิ่นช้า" ก็คืออะไรที่ทำให้ช้าต่อมรรคต่อผลจะไม่เอา
พวกเราจึงสามารถที่จะวัดตัวเองได้ว่า ต่อให้เราก้าวข้ามมาอยู่ในข้างดี สมมติว่าเราเหยียบอยู่ตรงกลางคือ ๕๐ ออกซ้ายมือคือ ๔๙ - ๐ ออกขวามือคือ ๕๑ - ๑๐๐ ตอนนี้เราอยู่ในระดับไหน ? จะมองเห็นอย่างชัดเจน คราวนี้ต่อให้ท่านออกถูกทางและอยู่ในระดับ ๑๐๐ ขอยืนยันว่าถ้าเอามาปฏิบัติธรรมแบบนี้ยังไม่พอกิน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2025 เมื่อ 00:29
|