ที่โยมเห็นว่าพระเหลือน้อย เพราะว่าไปอบรมบาลีก่อนสอบกัน ส่วนสามเณรเปิดเทอมก็สึกกันหมดแล้ว เมื่อวานลงทบทวนพระปาฏิโมกข์เฉพาะพระ ๔๑ รูป
วันนี้เท่ากับเป็นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๕ เข้าฤดูร้อนมาหนึ่งเดือนแล้ว บ้านเราแต่โบราณฤดูร้อนเริ่มวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ จำง่าย ๆ ว่าเป็นวันที่ในหลวงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต จากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน เดี๋ยวพอแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ก็เปลี่ยนเครื่องทรงจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน แล้วไปแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ก็เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นฤดูหนาว ของเราทำกันแค่นี้
แต่หลวงพ่อมหามัยมุนีที่ประเทศพม่า พอตี ๔ จะมีเสียงดนตรีปลุก เป็นวงปี่พาทย์มอญ หลังจากนั้นก็เป็นพิธีสรงพระพักตร์ เรียบร้อยแล้วก็ถวายข้าวพระ มีการโบกพัดอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ประมาณว่าพระองค์เสวยเสร็จแล้ว ก็จะปล่อยให้คนเข้าไปสักการะได้ แล้วก็จะมีเสียงดนตรีกล่อมอยู่ทั้งวัน
เขาปฏิบัติเหมือนกับพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าจัดเป็นพุทธานุสติที่สามารถเข้าถึงได้ ถ้าไปเจอพวกรู้มากเขาก็จะตำหนิเอาอีกว่า "ทำให้ยึดติด พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง"
ไอ้พวกรู้เกินนี่บ้านเรามีเยอะจริง ๆ อยากจะถามว่า"ถ้าไม่ถืออะไรไว้ แล้วจะเอาอะไรมาวาง ?" คนจะวางได้แปลว่าต้องมีสิ่งของที่ตนเองยึดถืออยู่ ก็แปลว่าเราต้องยึดเกาะในด้านดี อย่างเช่นว่า ทาน ศีล เป็นต้น พอถึงเวลาตอนช่วงท้าย ทุกสิ่งทุกอย่างเต็มสมบูรณ์แล้ว เขาก็จะปล่อยวางไปเอง
คนกินข้าวอิ่มไม่มีใครจะตะบี้ตะบันกินต่อไปหรอก นี่ยังไม่ทันกินเลยดันบอกให้อิ่มแล้ว..! อาตมาขี้เกียจด่า..! พวกโง่ ๆ แบบนี้ต้องให้ไปเกิดใหม่ เกิดอีกสักหลาย ๆ ชาติ จะได้ฉลาดกว่านี้ ไม่มาเสียเวลาทำลายธรรมะของพระพุทธเจ้า แต่ดูท่าว่าจะเกิดยากนะสิ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2025 เมื่อ 18:49
|