มาภายหลังก็พัฒนาขึ้นมาเป็น "ไฟฉาย" ไม่ว่าจะเป็นไฟฉายสองท่อน หรือว่าไฟฉายสามท่อน ก็คือใส่ถ่านกี่ก้อน ก็เรียกตามที่ใส่ ถ้าใส่ถ่านห้าก้อนก็เป็นไฟฉายห้าท่อน ส่วนที่นิยมก็คือไฟฉายตราหัวเสือ แต่ต้องใช้กับถ่านไฟฉายตราม้าขาว ตอนหลังคู่แข่งสำคัญปรากฏขึ้นก็คือถ่านไฟฉายตรากบ ทำให้เด็ก ๆ สามารถร้องเพลงโฆษณาถ่านไฟฉายตรากบได้ทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งเริ่มต้นว่า
"ต้นตระกูลผมแต่ปางบรรพ์ หลังย่ำสายัณห์ดวงตะวันเลี่ยงหลบ จะเดินทางเยื้องย่างไปไหน จำเป็นต้องใช้จุดไต้จุดคบปัจจุบันเห็นจะไม่ดี ขืนจุดไต้ซีถ้ามีใครพบ อาจจะอายขายหน้าอักโข เขาต้องฮาต้องโห่ว่าผมโง่บัดซบ
ยุคนี้มันต้องทันสมัย เพื่อนผมทั่วไปใช้ถ่านไฟตรากบ ทั้งวิทยุและกระบอกไฟฉาย คุณภาพมากมายสะดวกสบายครันครบ ถ่านก็มีหลายอย่างวางกอง เขากลับรับรองว่าต้องแพ้ตรากบ เหตุและผลเขาน่าฟังครับ ขอให้ลองสดับนะท่านที่เคารพ"
แล้วก็เป็นคำพูดที่บอกว่าถ่านไฟฉายของเขาดีอย่างไร เพื่อใช้โฆษณาสรรพคุณของถ่านไฟฉายของเขา ว่าสามารถที่จะให้ความสว่างขนาดไหน เพื่อให้เราไปซื้อของเขามาใช้นั่นเอง เหล่านี้เป็นต้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2025 เมื่อ 01:50
|