ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 22-04-2025, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องหนึ่งก็จะเป็นเกมของเด็ก ๆ ประมาณว่าเล่นตี่จับ เล่นแม่งู หรือว่าในส่วนของผู้หญิง ก็จะมีการเล่นมอญซ่อนผ้า เล่นรีรีข้าวสาร เป็นต้น ซึ่งเกมการเล่นสมัยนั้น เด็ก ๆ สมัยหลัง ๆ ส่วนใหญ่เล่นกันไม่เป็นแล้ว

อีกอย่างหนึ่งก็คือเล่นหมากเก็บ ซึ่งจะใช้ก้อนหิน หรือว่าสิ่งของที่ตนเองคัดเลือกแล้วว่าหยิบเก็บได้ถนัด เอามาเล่นกัน ซึ่งจะมีการกำหนดเป็น แม่ ๑ แม่ ๒ แม่ ๓ แม่ ๔ ถ้าหากว่าทอยหมากลงไปแล้ว ก็เก็บขึ้นมาเม็ดหนึ่งเป็น "ตัวแม่" ถ้าหากว่าเป็นหมาก ๑ ก็จะโยน "ตัวแม่" เม็ดที่เราเก็บขึ้นไป แล้วก็หยิบเอาเม็ดข้างล่างขึ้นมา ๑ เม็ด พร้อมกับรับ "ตัวแม่" ที่เราโยนแล้วตกลงมาเอาไว้ให้ได้ ถ้าหากว่าเก็บได้ครบทุกเม็ด ก็จะเป็นหมาก ๒ ก็คือต่อไปต้องเก็บ ๒ เม็ด ถ้าเป็นหมาก ๓ ก็เก็บ ๓ เม็ด ถ้าเป็นหมาก ๔ ก็เก็บ ๔ เม็ด เหล่านี้เป็นต้น

แล้วการเก็บนั้น หมาก ๑ ก็ไม่ค่อยเท่าไรนัก เพราะว่าเรามักจะหว่านกระจายห่าง ๆ กัน แต่ว่าหมาก ๒ หมาก ๓ หมาก ๔ นั้น ต้องมีเทคนิคในการหว่านอย่างไรให้อยู่ใกล้เคียงกัน แล้วขณะเดียวกัน ตอนเก็บรวบเข้ามาก่อนที่จะรับ "ตัวแม่" นั้น ก็จะต้องไม่ให้กระทบหมากอื่นที่เราไม่ได้รวบ ไม่เช่นนั้นเขาเรียกว่า "ตาย" ต้องสละสิทธิ์ให้คนอื่นเขาเล่นต่อไป

หรือว่าผู้หญิงก็มาเล่นอีตัก ซึ่งใช้เมล็ดมะขามส้มก็ดี เมล็ดมะขามเทศก็ดี หรือว่าเมล็ดน้อยหน่า แล้วก็ทำภาชนะสำหรับตัก ส่วนใหญ่ก็ใช้ใบไม้ ถ้าหากว่าใช้ใบมะพร้าวมาตัด เจียนให้ได้มุม จะเป็นอะไรที่ตักได้ถนัดที่สุด ก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน ก็คือจะเริ่มตักตั้งแต่ ๑ เม็ดขึ้นไป แล้วที่เป็นส่วนที่พวกเราชอบที่สุดก็คือ ถ้าตักได้ก็เป็นสิทธิ์ของเราไปเลย แต่ถ้าตักแล้วกระทบเม็ดอื่น หรือตักได้เกินจำนวน ก็ "ตาย" ต้องให้คนอื่นเขาตักต่อไปเช่นกัน

ในยุคสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตะเกียงกระป๋อง ซึ่งเป็นกระป๋องสังกะสีทาสีแดง ๆ จะใช้น้ำมันพืชบ้าง น้ำมันก๊าดบ้าง ใส่เอาไว้เป็นเชื้อเพลิง ถึงเวลาก็จุด มีควันดำ ๆ ถ้าหากว่าลูกบ้านไหนขยันอ่านหนังสือ พอรุ่งเช้าล้วงจมูกตนเอง ขี้มูกจะดำปี๋เลย..! เพราะว่าหายใจเอาควันจากตะเกียงกระป๋องเข้าไปอยู่ในจมูกของตนเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2025 เมื่อ 01:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา