ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 22-04-2025, 01:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นพอความเจริญเข้ามาถึง ก็มีการใช้สังกะสีมาทำเป็นถังน้ำ โดยที่มีวิธีการตัดแล้วก็เอามาบัดกรีให้เป็นรูปถัง มีส่วนหูซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหล็ก งอแล้วก็เกี่ยวเอาไว้ สามารถที่จะใช้ไม้คานหาบ แต่ว่าถ้าหาบโดยตรงก็มักจะไม่ถนัด เขาก็จะมี "สายยู" ก็คือในลักษณะเหล็กตะขอ ยาวลงมาสักศอกเศษ ๆ ถ้าเป็นคนตัวสูงบางคน ก็อาจจะทำ "สายยู" ยาวเป็นเมตรเลย เอาไว้สำหรับเกี่ยวหูถัง ถึงเวลาก็หาบน้ำเข้าบ้าน หาบข้าวของเข้าบ้าน เหล่านี้เป็นต้น

มากล่าวถึงความบันเทิงของเด็ก ๆ กันบ้าง เด็กในสมัยนั้นก็จะมีการเล่นลูกหิน เล่นหนังยาง การเล่นหนังยางนั้นมีทั้งเอายางหนังสติ๊กสำหรับผูกถุงพลาสติกอย่างสมัยนี้ มารวมกันหลาย ๆ เส้นเข้า แล้วก็ต่อเป็นเส้นยาว สำหรับในการที่จะทำเป็นเชือกกระโดด แล้วก็มีการกระโดด มีทั้งกระโดดสูง กระโดดต่ำ กระโดดแบบเขย่งเกี่ยวหนังยางด้วย

แต่ถ้าหากว่ามีน้อย ก็เอามาแข่งเป่ากบ หรือว่าแข่งทอยกองกัน เป่ากบก็คือการที่จะเป่าหนังยางของเราให้ไปทับยางของคนอื่น แล้วก็จะ "ยึด" หรือว่า "กิน" ก็คือได้ยางเส้นนั้นไป..!

ถ้าหากว่าทอยกอง ต่างคนต่างก็นำเอาหนังยางจำนวนหนึ่ง อย่างเช่นว่า คนละ ๓ เส้น ๕ เส้นมารวมกัน ถ้าหากว่าคนเล่นมาก ๆ เป็น ๑๐ คน ก็จะเป็นหอบใหญ่ทีเดียว แล้วก็จะมีหลัก ซึ่งเอาไปปักเอาไว้ห่างจากเราไปประมาณสัก ๓ - ๔ เมตร จากนั้นก็ขีดเส้นเป็นเขตกำหนด ให้เท้าเหยียบเอาไว้ที่เส้นนั้น เสี่ยงหาลำดับกัน แล้วก็ทอยเอาหนังยางลงไปที่หลักซึ่งปักเอาไว้ตามลำดับ เข้าหลักไปเท่าไร คนทอยก็ก็ได้หนังยางจำนวนนั้นไป เหล่านี้เป็นต้น แต่ว่าคนที่ทอยเก่ง ๆ เราก็มักจะไม่เล่นด้วย เพราะบางคนทอยทีเดียวได้หนังยางไปทั้งกองเลย..!

ส่วน "ลูกหิน" นั้น ตอนหลังพัฒนามาเป็น "ลูกแก้ว" ด้วย มีการดีดลูกหินด้วยนิ้วมือ อยู่ในลักษณะที่แข่งขันกันว่า เราจะดีดลูกหินของคนอื่นไปได้ไกลเท่าไร แล้วตนเองสามารถที่จะทอยลูกของตนเองไปในหลุมได้หรือไม่ ? ถ้าหากว่าทำได้สำเร็จ ก็จะถือว่าจบเกม ไปยืนรอ จนกว่าคนอื่นจะจบตามไป บางทีก็แข่งขันเขกเข่ากัน ผู้ชนะก็จะเขกคนแพ้ บางทีเข่าบวมจนร้องไห้ไปเลยก็มี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2025 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา