การพนันส่วนหนึ่งก็เสียกันแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะว่าสมัยก่อนนั้นไม่ค่อยจะมีเงินกัน ส่วนใหญ่ก็มีข้าวปลาอาหารพอที่จะกินได้ครบรอบปีเท่านั้น เงินทองนั้นส่วนหนึ่งยังใช้ธนบัตร หรือว่าเหรียญในสมัยรัชกาลที่ ๘ แล้วก็ยังมีบรรดาสตางค์รู ไม่ว่าจะเป็นเหรียญสตางค์แดง หรือว่าเหรียญสตางค์ที่ทำจากดีบุก
มาระยะหลัง ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้เหรียญรัชกาลที่ ๙ ทั้งหมดนั้น มี "ร้านโชห่วย" ซึ่งก็คือร้านสะดวกซื้อของสมัยก่อน เป็นพ่อของเพื่อนชื่อว่า "ซิบเจ็ก" คำว่า "เจ็ก" ก็คือ "อา" น้องพ่อนั่นเอง แต่สมัยนั้นถ้าเขียนจะเป็น "อาว์" แกมาจากตระกูลแซ่ตั้ง ถ้าเป็นภาษาจีนกลางก็คือแซ่เฉิน แล้วลูกสาวที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ก็คือเด็กหญิงเง็กบ๊วย แซ่ตั้ง ถ้าเป็นชื่อภาษาจีนกลางก็คือ เฉิน อวี้ เหมย
ซิบเจ็กเคยเรียนวิทยายุทธ์มา แล้วถ้าใครมาซื้อของ ถ้าหากว่าเป็นเหรียญเนื้อดีบุก ซึ่งเรียกง่าย ๆ ว่า "สตางค์รู" เหรียญสตางค์รูสมัยก่อนนั้น มักจะร้อยมาด้วยเข็มกลัดตัวใหญ่ ทีละ ๑๐ เหรียญบ้าง ๒๐ เหรียญบ้าง ๒๕ เหรียญบ้าง เพื่อมาซื้อของ อย่างที่บอกไว้แล้วว่า ก๋วยเตี๋ยวชามละ ๒๕ สตางค์ พอมาช่วงหลัง ๆ ที่ทางราชการจะเรียกเก็บธนบัตร หรือว่าเหรียญรัชกาลที่ ๘ ทั้งหมด ซิบเจ็กก็จะอยู่ในลักษณะของการที่เลือกรับเหรียญ
ถ้าใครส่งเหรียญที่ทำด้วยดีบุกไปให้ แกจะวางไว้ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงไป ถ้าหากว่าหักก็ไม่รับ..จะคืนให้ ถ้าไม่หักถึงจะรับเอาไว้ เพราะแสดงว่ามีส่วนผสมของโลหะเงินอยู่มาก เพียงพอที่จะนำไปหลอมแล้วทำกำไรได้ตามประสาพ่อค้า ต้องบอกว่าในสมัยนั้น การเรียนวิชาป้องกันตัวของคนรอบบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวิทยายุทธ์จากเมืองจีน เพราะว่ามีเชื้อสายจีนกันแทบทั้งนั้น
อาเจ็กอีกคนหนึ่งชื่อว่า "หีเม้งเจ็ก" ซึ่งถ้าหากว่าเป็นภาษาไทยก็คือ "อาหูดี" แต่คราวนี้ภาษาแต้จิ๋วเรียกว่า "หีเม้ง" พอถึงเวลาแกเปิดร้านขายของ บรรดาคนไทยก็ไปแซวว่า "อาแปะหีเหม็น ขอซื้อเหล้ากั๊กหนึ่ง" อาแปะก็ขายให้หน้าตาเฉย จนกระทั่งบางทีลูกเมียโกรธหน้าดำหน้าแดง ถึงขนาดต่อว่า "ทำไมพ่อถึงทำไม่รู้ไม่ชี้ให้เขาเรียกแบบนั้น ? ไม่รู้หรือว่าเป็นคำด่า คำหยาบคาย"
อาแปะแกก็บอกว่า "มันจะพูดอะไรก็เรื่องของมัน ถึงเวลามันก็ต้องเอาสตางค์มาให้เรา..!" กระผม/อาตมภาพยังรู้สึกว่าอาแปะหีเม้งแกเป็นคนที่วางตัวเป็น อย่างที่สมัยนี้เรียกว่า "อยู่เป็น" นั่นเอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-04-2025 เมื่อ 03:07
|