วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ภารกิจสำคัญก็คือไปร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) หมู่ที่ ๕ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ในระหว่างเดินทางกลับก็ได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ในหัวข้อ "เล่าความหลัง" ของเรากันต่อไป
สำหรับในช่วงตอนเด็กนั้น จะมีเรื่องของความบันเทิงและอบายมุขต่าง ๆ หลายอย่างหลายประการด้วยกัน เพียงแต่ไม่ได้หลากหลายเหมือนกับสมัยนี้
ขอกล่าวถึงเรื่องอบายมุขโดยเฉพาะการพนันก่อน ส่วนหนึ่งก็จะเล่นกันในงานศพ เนื่องเพราะว่าเป็นค่านิยมว่าเล่นเป็นเพื่อนศพ ไม่ต้องจ่ายภาษีและไม่โดนตำรวจจับ อีกส่วนหนึ่งก็ตีตั๋วตั้งบ่อนอย่างเป็นทางการ อีกส่วนหนึ่งก็หลบเล่นกันอยู่ตามป่าช้าบ้าง ป่าท้ายบ้านบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นที่ลึกลับเฉพาะตน ถ้าไม่ใช่บุคคลที่รู้กันจริง ๆ ก็มักจะหาไม่เจอ
ถ้าหากว่าเป็นการพนัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไพ่และไฮโลว์ จะมีพวกกำถั่วหรือว่าเล่นโปบ้าง ก็แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแบบไหน การเล่นโปนั้นก็จะมีการนับทีละ ๔ เม็ดมะขาม ก็คือถ้าหากว่าหาเม็ดมะขามส้มได้ ก็จะใช้เม็ดมะขามส้มในการที่เอามาเพื่อที่จะ "ปั่นโป" กัน หรือถ้าหมดท่าขึ้นมา เมล็ดน้อยหน่าก็ใช้ได้ ถึงเวลาเจ้ามือจะเอาไม้เขี่ย นับทีละ ๔ เม็ด แล้วก็ดูว่าสุดท้ายเหลือเท่าไร ? ใครแทงถูกหรือแทงผิด ? จนกลายเป็นสำนวน "แจงสี่เบี้ย" ในทุกวันนี้
ส่วนการพนันอื่น ๆ นั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของการชนไก่ กัดปลา ในเรื่องของวัวชนควายชนนั้นไม่เคยเจอ การชนไก่และกัดปลานั้น ก็ต้องตีตั๋วติดบ่อนเหมือนกัน แต่ว่าก็มีส่วนหนึ่งที่อยู่ในลักษณะของ "บ่อนวิ่ง" ก็คือนัดกันไปเล่นที่บ้านโน้นบ้าง บ้านนี้บ้าง ย้ายหนีไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้โดนจับได้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-04-2025 เมื่อ 03:00
|