กระผม/อาตมภาพจึงย้ำให้ยายภาวนาเป็นประจำ ๆ เพราะว่าถึงเวลาเขาจะมารับจริง ๆ ยายก็ยังปรารภว่า "มีแต่พระนี่แหละที่เชื่อ พอบอกคนอื่นเขาหาว่าฉันเพ้อทั้งนั้น..!" แล้วถึงเวลายายก็หลับลึก จิตนิ่งใสทั้งดวง จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นก็เสียชีวิตไปเฉย ๆ เหมือนกัน..!
แล้วมาปี ๒๕๕๑ โยมแม่ก็อยู่ในอาการเดียวกัน เมื่อสวดมนต์แล้วบอกให้ท่านเกาะพระ ที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพสร้างที่วัดหนองหญ้าปล้อง เป็นพระสมเด็จองค์ปฐมหน้าตักตั้ง ๔๐ ศอก ขอให้นึกถึงบุญตรงนี้เอาไว้ แล้วโยมแม่รับปาก "อือ..อือ" เสร็จเรียบร้อยก็หลับยาวไปจนกระทั่งเสียชีวิตเช่นกัน
กระผม/อาตมภาพยังคิดว่า แม้พวกเราจะสร้างบาปสร้างกรรมเอาไว้ เพราะว่าจะต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน เลี้ยงครอบครัวก็จริง แต่ว่าถึงเวลาก็ตายดีตายสบายกันทุกคน ยกเว้นคุณย่าที่ไม่ยอมไป อาละวาดตบตีอยู่กับเทวทูตที่มารับอยู่หลายวัน กว่าที่เขาจะหาช่องเอาไปได้..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น คิดว่าถ้าตัวเองถึงเวลาตายก็น่าจะไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรนัก..!
สำหรับวันนี้ก็เล่าเลยในช่วงที่ตนเองต้องการจะกล่าวถึงไปเสียนาน พรุ่งนี้คงต้องย้อนกลับมาใหม่ในช่วงที่ยังเรียนชั้นมัธยมอยู่
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2025 เมื่อ 00:58
|