พอไปโรงเรียนทำอย่างไร ? ไม่ได้นอนทั้งคืน ก็ยกมือขออนุญาตคุณครู "ขอนอนครับ ผมไม่ไหวแล้ว" ครูสมัยนั้นดีมาก ท่านจะรู้สภาพครอบครัวของศิษย์ทุกครอบครัว มีการไปเยี่ยมบ้านเป็นปกติ ไอ้ที่เห็นครูเยี่ยมบ้านสมัยนี้นี่โบราณสุด ๆ เขาทำกันมาตั้งแต่ยุคโน้นแล้ว..! และครูสมัยโน้นไม่ได้ไปเยี่ยมบ้านวันราชการ ท่านไปเยี่ยมบ้านวันโกน - วันพระ ที่หยุดเรียน หรือว่าวันเสาร์ - วันอาทิตย์ ที่หยุดเรียน พูดง่าย ๆ ว่าเดินรอบหมู่บ้านนั่นแหละ
คุณครูก็บอกว่า "อนุญาตให้นอนได้ แต่วิชาของฉันห้ามตกนะ..!" ก็เลยทำให้กระผม/อาตภาพต้องพยายามฝืนตัวเองว่า ถึงจะหลับแต่หูต้องได้ยิน เพราะว่าเป็นคนความจำดี ถ้าได้ยินอะไรแล้วจะจำได้ จึงใช้วิธีนั้นเรียนหนังสือมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าเป็นการฝึกกรรมฐานระดับสูงเลย ก็คือ ถึงในระดับที่หลับกับตื่นต้องมีสติรู้เท่ากัน แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเป็นกรรมฐาน คิดอยู่อย่างเดียวว่าเราจะสอบตกไม่ได้ เพราะว่าพ่อแม่ไม่ได้มีคำสอนอะไรมาก แค่บอกว่า "พ่อแม่ไม่รู้หนังสือ ทำอะไรก็เสียเปรียบเขา เพราะฉะนั้น..พวกแกต้องเรียน..!"
แล้วสิ่งที่จะทำให้พ่อแม่ชื่นใจก็คือการเรียนเก่งกว่าลูกบ้านอื่น กระผม/อาตภาพจึงคว้าที่ ๑ มาตลอด ไม่เคยแบ่งปันให้กับบ้านไหนเลย แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่า มีแต่เพื่อนผู้หญิงเท่านั้นที่ผลการเรียนใกล้เคียงกัน เพื่อนผู้ชายไม่มีเลย ยิ่งมาในระดับมัธยมที่เป็นวัยรุ่นแล้ว เพื่อนผู้ชายมักจะรูดไปอยู่ท้าย ๆ โน่น มีแต่เพื่อนผู้หญิง ๕ คน ๖ คน ที่เกาะกลุ่มไล่กวดกันมา แพ้ชนะกันแค่จุดเท่านั้น บางทีมีที่ ๑ ทีหนึ่ง ๕ คน ๖ คน ที่ ๒ ที่แพ้กันแค่ ๐.๒ - ๐.๓ คะแนน หล่นไปอยู่ที่ ๗ ที่ ๘ โน่น..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งเดียวที่ทำให้พ่อแม่ดีใจและชื่นใจได้ก็คือเรียนเก่ง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนให้เก่งเข้าไว้ แล้วก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั่นคือการฝึกกรรมฐานอย่างหนึ่ง ถ้าใครอยากจะฝึกกรรมฐานแบบนี้ ก็ลองไปนอนเฝ้าพ่อเฝ้าแม่ทั้งคืนทั้งวันดูบ้างก็ได้ ไอ้ที่ใช้คำว่าทั้งคืนทั้งวันก็เพราะว่า กลางคืนไม่ได้นอน กลางวันต้องเรียนหนังสือ เผื่อว่ากรรมฐานของพวกเราจะก้าวหน้าขึ้นมาบ้าง ดูท่าต้องรอฟังต่อวันพรุ่งนี้อีกแล้ว
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-04-2025 เมื่อ 00:39
|