ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 16-04-2025, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,298 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงนั้นด้วยความที่ว่าป่าใหญ่ไพรกว้างล้อมรอบบ้าน หน้าหนาวนี่หนาวสุด ๆ หนาวจนผิวแตกเป็นริ้ว ๆ หนาวจนริมฝีปากแตก เลือดซิบ ๆ รู้สึกเหมือนกับว่าห่มผ้าไปก็ไม่ได้ห่มอะไรเลย กลางคืนจึงมีการมาก่อไฟกลางบ้าน เพราะว่าบ้านสร้างแบบบ้านดินของคนจีนรุ่นเก่า ๆ พื้นจะเป็นดินทุบแน่นเท่านั้น สามารถก่อไฟได้ ก็มานั่งล้อมวง ผิงไฟกันรอให้สว่าง ง่วงมาก ๆ สัปหงกทีหนึ่งหัวทิ่มลงไป ผมก็หงิกไปทั้งแถบ..!

ในเมื่อเป็นป่าใหญ่และเป็นที่ซ่อนของบรรดาชุมโจรต่าง ๆ ทางราชการก็เลยตั้งใจจะทำลายป่าตรงนั้นทิ้ง ซึ่งตอนหลังเปิดออกมาเป็นสนามบินกำแพงแสนจำนวน ๑๐,๕๐๐ ไร่ แล้วเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนอีก ๘,๐๐๐ ไร่ ช่วงนั้นจำได้ว่าบริษัทเกอร์ซันแอนด์ซันเป็นผู้รับเหมาสร้างสนามบิน ดูการสร้างของเขาแล้วสุดยอดมาก ขุดดินลงไปจนลึกท่วมหัวเลย แล้วก็เอารถบดลงไปบดไถ ฉีดน้ำแล้วบด บดแล้วเอารถไถ ไถขึ้นมาใหม่ ฉีดน้ำใหม่แล้วบดอีก จนกระทั่งหางไถกดไม่ลง แน่นขนาดนั้น..!

แล้วก็มีการปูแผ่นเพลท ซึ่งสมัยนั้นไม่เข้าใจว่าทำด้วยอะไร ลักษณะเป็นแผ่นยาว ๆ กว้างสักประมาณ ๓๐ เซ็นติเมตร ยาวสัก ๖ เมตรได้ ปูลงไปเป็นพื้น ลักษณะจะเป็นแผ่นที่มีร่องโปร่งอยู่ข้างใน เห็นว่าเป็นการซับแรงสะเทือนได้ดี แล้วถึงจะเทคอนกรีตทับ สร้างแข็งแรงขนาดว่าถ้าเครื่องบินพาณิชย์ลงต้องรับได้..!

โยมแม่ก็เลยเปลี่ยนอาชีพจากเกษตรกร มีการไปแลกข้าวกับทางด้านหมู่บ้านลาวโซ่ง คือคนลาวโซ่งมีอยู่รอบบ้าน โดนกวาดต้อนมาสมัยรัชกาลที่ ๓ นำมาไว้ที่นครปฐมบ้าง สุพรรณบุรีบ้าง ราชบุรีบ้าง เพชรบุรีบ้าง ซึ่งปัจจุบันนี้เขาเรียกว่าไทยทรงดำ อาตมภาพมีเพื่อนลาวโซ่งเยอะแยะ จนกระทั่งพูดภาษาลาวโซ่งได้..!

คนลาวโซ่งปลูกผักไม่เป็น หากินตามหัวไร่ชายนา ตามป่าตามเขา โยมแม่เห็นช่องว่างตรงนั้น คนจีนขยันปลูกผัก ก็เลยเอาผักไปแลกข้าว เป็นข้าวเปลือก ไม่ได้ซื้อขายกัน เป็นการแลกเปลี่ยน ค้าขายแบบโบราณจริง ๆ ก็คือคุณเอาผักอะไรไป จะให้ข้าวเท่าไรก็พูดคุยตกลงกัน อีกฝ่ายหนึ่งรับผักไปแล้วก็ตวงข้าวเปลือกมาให้

โยมแม่ไม่เคยทำนา แต่มีข้าวเปลือกล้นยุ้งทุกปี เพราะว่าเดินไปแลกข้าวที่หมู่บ้าน ซึ่งห่างกันหลายกิโลเมตรอยู่ จำได้ว่าตอนนั้นที่บ้านอยู่หมู่ที่ ๑๑ ตำบลสระสี่มุม บ้านลาวโซ่งน่าจะเป็นหมู่ที่ ๖ มาตอนหลังเขาปรับขยายตำบลเพิ่ม บ้านอาตมภาพมาอยู่หมู่ที่ ๑๒ ตำบลสระพัฒนาแทน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2025 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา