คราวนี้ทางราชการไทยของเรา ได้กำหนดให้วันที่ ๑๔ เมษายนของทุกปีเป็น "วันครอบครัว" ซึ่งวันครอบครัวนั้น ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเรา แต่ว่าเราท่านทั้งหลายควรที่จะมีจิตสำนึกเองว่า บุคคลที่ดูแลเลี้ยงดูอุ้มชูเรามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย บัดนี้แก่เฒ่า จะไปไหนก็ลำบาก มีอะไรที่พอจะช่วยเหลือให้ท่านมีความรู้สึกชื่นใจ อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ก็ควรที่จะกระทำ ไม่ใช่ว่ารอจนสงกรานต์แล้วโผล่หน้าไปให้เห็นครั้งเดียวในหนึ่งปี เรื่องพวกนี้จึงเป็นจิตสำนึกของพวกเราเองว่า จะทำอะไรเป็นการตอบแทนท่านบ้าง ?
กระผม/อาตมภาพเองสมัยที่เป็นฆราวาส พอถึงเวลาวันอาทิตย์ได้หยุดงาน ๑ วัน ก็จะไปวัดในช่วงเช้า ก็คือ ไปทำสิ่งที่ตนเองชอบในเรื่องของการถือศีลปฏิบัติธรรม ในเวลาช่วงบ่ายก็ให้เวลากับโยมแม่ของตนเอง เพราะว่าโยมพ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะอายุ ๑๖ ปี แม้ว่าจะมีเวลาเพียงเล็กน้อยก็พยายามที่จะไปหา
แล้วเมื่อมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ก็แบ่งปันกับพี่น้องของตน เพราะว่าโยมแม่ไม่ชอบอยู่ที่ใดที่หนึ่งนาน ๆ กลัวว่าลูกจะอิจฉาใส่กัน ก็ไปอยู่ที่นั่นครึ่งเดือนบ้าง อยู่ที่นี่เดือนหนึ่งบ้าง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันในหมู่พี่น้อง ๑๒ คนที่เหลืออยู่ เนื่องเพราะว่าพี่น้อง ๑๓ คนนั้น มีพี่สาวเสียชีวิตไปก่อน ๑ ราย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2025 เมื่อ 02:35
|