แต่ถ้าหากว่าในล้านนาประเทศของเรา อย่าง เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปางนั้น เขายังมีวันพญาวัน วันปากปี วันปากเดือน วันปากวัน และวันปากยาม เหล่านี้เป็นต้น ยังมีกิจต่าง ๆ ให้กระทำกองบุญกองกุศลเสริมสร้างให้กับตนเองและผู้อื่นติดต่อกันอีกหลายวันด้วยกัน
ประเพณีเหล่านี้นั้นเมื่อมาถึงประเทศไทยของเรา ก็ได้รับการปรับแปลงจากประเพณีพราหมณ์มาเป็นพุทธ ก็คือ เราเปลี่ยนจากการสาดน้ำทั่วไปมาเป็น ถวายน้ำสรงพระพุทธรูป ถวายน้ำสรงแก่พระสงฆ์ที่เราเคารพนับถือ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นทางภาคอีสาน พระเถระที่ได้รับการ "ฮดสรง" หรือว่ารดสรงน้ำนี้ ถ้าถึง ๓ ปีต่อเนื่องกันเขามีคำนำหน้าว่า "จารย์" อย่างเช่น อาตมภาพถ้าไปอยู่ที่นั่น ได้รับการสรงน้ำ ๓ ปีติดกัน เขาจะเรียกว่า "จารย์เล็ก" เหล่านี้เป็นต้น แต่ถ้าหากว่าได้รับการสรงน้ำต่อเนื่องกันไปหลายต่อหลายปี ก็จะเปลี่ยนจากจารย์เป็น "ญาครู"
คำว่า "ญาครู" นี้มาจากศัพท์สองคำ คำแรกก็คือ "อาชญา" คำที่สองก็คือ "พระครู" ในเมื่อเอาคำว่า "อาชญา" คือ การลงโทษ มาต่อกับ "พระครู" แล้วกร่อนลงมาเหลือแค่ "ญาครู" ก็คือ "ครูบาอาจารย์ผู้ที่สามารถลงโทษผู้อื่นได้" เพราะว่าเป็นผู้ที่ทรงศีลทรงธรรม มีความรอบรู้และยุติธรรม สามารถเป็นผู้ที่ตัดสินความต่าง ๆ ในชุมชนของตนเองได้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2025 เมื่อ 02:33
|