หลายท่านก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ เห็นคนทำความชั่วแล้วอยู่สุขอยู่สบาย เราก็ไปคิดว่า..ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป ความจริงบุคคลทั้งหลายเหล่านั้นเขากินบุญเก่าอยู่ ถ้าหากว่าบุญเก่าขาดช่วงลงไปเมื่อไร ต่อให้ร่ำรวยขนาดไหน เดี๋ยวก็อาจจะต้องรับโทษ ติดคุกติดตะราง หรือไม่ก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ไม่มีแผ่นดินจะอยู่..!
เรื่องของบุญเรื่องของกรรมนั้นไม่ใช่ความเชื่อ แต่เป็นความจริงแท้ คือ เราทำอะไรก็ได้สิ่งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำไม่ช้าก็เร็วย่อมส่งผลให้เกิดแก่ตัวเรา ดังนั้น..ในเรื่องของพระพุทธศาสนาของเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงสอนให้เราเชื่อกรรม เชื่อการส่งผลของกรรม เชื่อว่าการกระทำความดีความชั่วนั้นย่อมต้องได้รับผล เชื่อว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของเราเกิดจากกรรมเก่าที่ได้กระทำมาในอดีต
ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ เราท่านทั้งหลายต่อให้ไม่เชื่อ แต่ถ้าหากว่าพินิจพิจารณาเอาโดยปัญญาที่พอมีอยู่ว่า สิ่งหนึ่งถ้าหากว่าเราทำแล้วเสมอตัวกับกำไร สิ่งหนึ่งเราทำแล้วเสมอตัวกับขาดทุน โดยปกติของพวกเราก็ต้องทำในสิ่งที่เสมอตัวและกำไร ดังนั้น..ต่อให้ท่านทั้งหลายไม่เชื่อเรื่องกรรม แต่ถ้าหากว่าท่านทำไปแล้วกรรมดีกรรมชั่วมีจริง ท่านก็ได้กำไร ถ้าไม่มีท่านก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าท่านทำกรรมชั่วแล้วผลของกรรมมีจริง ท่านก็ขาดทุนย่อยยับ ถ้าไม่มีท่านก็แค่เสมอตัว
ก็แปลว่าท่านทั้งหลายควรที่จะตั้งจิตของตนให้แจ่มใส ตั้งใจของตนให้เป็นสมาธิ จักได้มีสัมมาทิฏฐิ สามารถที่จะพิจารณาว่า สิ่งใดเป็นความดี สิ่งใดเป็นความชั่ว แล้วก็เลือกกระทำในสิ่งที่ดี ละเว้นในสิ่งที่ชั่ว ท้ายที่สุดผลดีทั้งหลายเหล่านั้น ก็ย่อมส่งผลให้เกิดความสุขแก่ตัวของท่านเอง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2025 เมื่อ 01:26
|