กระผม/อาตมภาพกับพรรคพวก ๔ - ๕ คน เคยเดินทางไปเขาค้อ ช่วงขาลงฝนตกหนักมาก แล้วกระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ภายในเก๋งของรถกระบะ แต่พรรคพวกอยู่ ๔ คนนั่งอยู่ท้ายกระบะ วิธีที่จะพ้นฝนได้อย่างเดียวก็คือวิ่งให้เร็วเข้าไว้ เพื่อให้ฝนปลิวเลยหัวไป..!
ปรากฏว่าพอเข้าโค้ง รถหมุนติ้วเป็นลูกข่างเลย..! กระผม/อาตมภาพมองตัวเองแล้ว สติดีมาก ไม่ได้ตกใจอะไรเลย นอกจากจะใช้เท้ายันพื้นแล้วยังเอาหัวเข่าค้ำคอนโซลด้านหน้าเอาไว้ พร้อมกับมือยันเอาไว้ด้วย กะว่าถ้าตกลงเหว อย่างน้อยตัวเราก็จะไม่หลุดจากที่นั่ง..!
นั่นคือลักษณะของผู้มีสติ พร้อมที่จะแก้ไขเหตุการณ์จากร้ายให้เป็นดี จากหนักให้เป็นเบา แต่โชคดีที่ว่าพอรถหมุนไปนับรอบไม่ถ้วนแล้ว ยังไม่หลุดขอบถนน ห่างจากขอบถนนประมาณฝ่ามือหนึ่ง..! มองลงไปแล้วก็หวาดเสียวดี แล้วพวกข้างหลังก็คือพรรคพวกที่ปฏิบัติธรรมร่วมกันมาตั้งแต่สมัยฆราวาส มีเสียงตะโกนว่า "เอาอีก..เอาอีก..!" คนขับรถตะโกนบอกว่า "ทำอีกก็ไม่เหมือนเดิมแล้วโว้ย..!" สรุปก็คือทั้งหมดนั่นบ้า..! บุคคลที่สติดีเกินไปในเหตุการณ์แบบนั้น คนมักจะว่าบ้า เพราะว่าการแสดงออกไม่เหมือนบุคคลปกติทั่วไป
จากตัวอย่างที่ยกมา ขอยืนยันว่าตอนนั้นกระผม/อาตมภาพเพิ่งบวชได้ ๔ พรรษากระมัง ? แต่ว่าปฏิบัติธรรมร่วมกับพรรคพวก ๔ - ๕ คนนั้นมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว ไปกับคนทั้งหลายเหล่านั้นดีอยู่อย่างหนึ่งว่า อยากจะทำอะไรก็ได้ทำ เพราะว่าไม่มีใครกลัว แต่ไม่ดีตรงที่ว่าถ้าสติดีเกินไปมักจะตายเร็ว เพราะว่าไม่ค่อยจะหนีใคร..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-04-2025 เมื่อ 01:55
|