ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 08-04-2025, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,297 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอบายมุขอีกอย่างหนึ่งนั้นมาในสิงคาลกสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ซึ่งกล่าวถึงสิงคาลกมาณพที่มาไหว้ทิศทั้ง ๖ เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอบถามแล้วจึงได้บอกว่า พระอริยสาวกในศาสนาของพระองค์ท่านนั้น จะเว้นจากกรรมกิเลส ๔ และหนทางเสื่อมให้โภคะ ๖ ประการ เพื่อปิดทิศทั้ง ๖ ซึ่งหนทางแห่งความเสื่อมจากโภคะ ๖ ประการนั่นแหละที่เรียกกว่าอบายมุข ๖ ซึ่งประกอบไปด้วย

๑) การดื่มน้ำเมา
๒) การเที่ยวกลางคืน
๓) การเที่ยวดูการละเล่น
๔) การเล่นการพนัน
๕) การคบคนชั่วเป็นมิตร
๖) การเกียจคร้านในการทำงาน

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าการดื่มน้ำเมาในอบายมุข ๖ นั้นก็ตรงกับการเป็นนักเลงสุราในอบายมุข ๔

การคบคนชั่วเป็นมิตรนั้นตรงกันทุกประการ

การเล่นการพนัน ตรงกันทุกประการ

การเป็นนักเลงหญิงนั้น สงเคราะห์เข้ากับการเที่ยวกลางคืน หรือเที่ยวดูการละเล่นได้

ก็แปลว่าหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นไม่มีอะไรคัดค้านกันเลย เพียงแต่ว่าหนทางแห่งความเสื่อมของโภคะ คือทรัพย์สมบัตินั้นจะชัดเจนกว่า และครอบคลุมกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2025 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา