วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพนำสามเณรภาคฤดูร้อนออกบิณฑบาตตามปกติ แต่ไม่ปกติตอนที่ว่า เมื่อกลับมาแล้ว น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) มารายงานว่ามีสามเณร ๕ รูปหนีไปหาพระครูสมุห์ฉันธ์ วรปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ เพื่อขอให้ช่วยสึกให้..!
เมื่อไปตามตัวกลับมา เพราะท่านพระครูสมุห์ฉันธ์โทรศัพท์ไปบอกแล้ว สอบถามได้ความว่า ไม้เรียวก็ทนได้ อะไรก็ทนได้ สิ่งที่ทนไม่ได้ก็คือห้ามเล่นเกม..!
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจ เนื่องเพราะว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ นั้นมักจะติดโทรศัพท์เสียจนกระทั่งขาดไม่ได้ ในเมื่อให้พ่อแม่นำโทรศัพท์กลับไปหมด ลูก ๆ ก็จะขาดใจตาย..! ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสนใจของเด็ก ๆ ไม่ได้รวมอยู่ที่เดียวต่อกิจกรรมตรงหน้า หากแต่ว่าฟุ้งซ่านไปกับเกมต่าง ๆ ที่ตนเองเล่น เมื่อห่างจากเกมมาก็ทำให้รู้สึกว่าขาดสิ่งที่เคยชินไป จนถึงขนาดอยู่ไม่ได้..!
และคาดว่าเด็กส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็เป็นแบบนี้ ถ้าหากว่าพ่อแม่ยังตามใจ ให้โทรศัพท์ลูกตั้งแต่เล็ก ๆ ก็มีหวังว่าเด็กบ้านเราคงจะกลายเป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่สนใจเรื่องเนื้อหาการเรียน หากแต่สนใจแต่การเล่นเกมเท่านั้น..!
ถ้าเราดูประเทศญี่ปุ่น จะให้ลูกใช้โทรศัพท์ก็ต่อเมื่ออายุ ๑๕ ปีไปแล้ว ซึ่งทำให้เด็ก ๆ ต้องจดจ่ออยู่กับบทเรียนต่าง ๆ ซึ่งมีการแข่งขันกันสูงมาก ในเมื่อเราเองก็พยายามที่จะเลียนแบบสิ่งที่ดี ๆ ของต่างประเทศ ก็น่าจะที่เลียนแบบในการห้ามใช้โทรศัพท์จนกว่าจะอายุ ๑๕ หรือ ๑๖ ไปเลยก็ได้
ส่วนในเรื่องการห้ามลงโทษเด็ก ห้ามตีเด็ก ห้ามเด็กสอบตก ถือว่าเป็นเรื่องเหลวไหลที่ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ทำให้สังคมของเราต้องวุ่นวายจนถึงปัจจุบัน ถ้าหากว่าท่านสามารถที่จะยกเลิกคำสั่งทั้งหลายเหล่านี้ได้ ก็จะเป็นคุณต่อประเทศชาติของเราเป็นอย่างยิ่ง..!
เมื่อฉันเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็บอกลาบรรดาสามเณรภาคฤดูร้อน เดินทางไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) โดยแวะฉันเพลด้วยข้าวกล่องกลางทางตามเคย ไปร่วมพิธีบวงสรวงบอกกล่าวเพื่อที่จะเปิดงานประจำปี และขออนุญาตปลุกเสกวัตถุมงคล ทั้งรูปหล่อและเหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-04-2025 เมื่อ 01:24
|