ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราในปัจจุบันนี้จึงแบกภาระหนักมาก หนักตรงไหนครับ ? หนักตรงที่ว่าภาระตนก็ยังต้องพยายามขัดเกลาสภาพจิตให้ผ่องใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ ภาระของวัดวาอารามก็ต้องรับผิดชอบ ภาระของญาติโยมก็ต้องรับผิดชอบ หนักหนาสาหัสครับ ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่ามุตตาหัง เพราะว่ายังไม่พ้น แต่ว่าเราทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มกำลังของเรา ทำให้สมกับเป็นลูกของพระพุทธเจ้า อย่าทำตัวเป็นลูกกิเลสครับ..!
เวลาที่เหลือท่านใดมีปัญหาจะสอบถามก็สามารถที่จะถามได้เลยนะครับ ให้อยู่ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมก็แล้วกัน เผื่อว่าท่านมีปัญหาเฉพาะตัวที่ต่างจากคนอื่นบ้าง นิมนต์เลยครับ ถ้าไม่มี..ยังมีเวลาเหลืออยู่อีกประมาณ ๒๐ นาที
สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้กับทุกท่านก็คือ พระพุทธศาสนาของเราบอบช้ำมาก ในเมื่อบอบช้ำมากแล้ว กระผมอยากจะเรียนถวายพวกท่านไว้ว่า ถ้าเราทำให้พระพุทธศาสนาเจริญไม่ได้ ก็อย่าทำให้พระพุทธศาสนาล่มจมด้วยมือเราครับ..! ทุกสิ่งที่ท่านทั้งหลายทำ อยู่ในสายตาชาวบ้านตลอด ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ทำดีเป็นร้อยครั้งเขาจะชมก็ยาก ทำชั่วให้เห็นครั้งเดียว เขาด่าไปยันลูกบวชเลยนะครับ..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราต้องระลึกไว้เสมอครับ "บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกิริยาใด ๆ ที่เป็นของสมณะ เราต้องทำอาการกิริยานั้น ๆ" ไม่เช่นนั้นแล้ว เราเล่นผิดบท คนเขาจะโห่ไล่ลงจากเวทีนะครับ..!
ทุกท่านบวชมา อาจจะน้อยคนที่ตั้งใจถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา การบวชเข้ามามีเหตุหลายอย่างครับ "อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารเสื่อม เอือมเจ้านาย ยายให้บวชแก้บน" แต่ท่านจะมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม เข้ามาแล้วต้องเล่นให้สมบทบาท ถ้าเป็นอย่างหลวงพ่อแย้มของเรา ท่านบอกว่า "รู้จักหน้าที่ ทำตามหน้าที่ อย่าทำเกินหน้าที่ และอย่าละทิ้งหน้าที่" ถ้าทำได้อย่างนี้ก็จะเป็นศรีแก่ตนเอง ถ้าหากว่าเป็นศรีแก่ตนเองเมื่อไร ก็เป็นศรีแก่พระพุทธศาสนา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-04-2025 เมื่อ 14:17
|