คราวนี้เมื่อโยมเลี้ยงเรา แล้วเราเอาอะไรตอบแทนครับ ? พุทธบริษัท ๔ แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่ายนะครับ ก็คือ อนาคาริกะ (ผู้ไม่ครองเรือน) คือภิกษุและภิกษุณี อาคาริกะ (ผู้ครองเรือน) คืออุบาสก อุบาสิกา
ผู้ครองเรือนเวลาปฏิบัติธรรมมีน้อยครับ จึงสนับสนุนผู้ไม่ครองเรือนด้วยปัจจัย ๔ เมื่อท่านมีเวลามาก เร่งปฏิบัติไปให้ถูกทาง แล้วกลับมาบอกทางถูกให้แก่ญาติโยม คนที่ทำหรือว่าผ่านทางไปแล้ว ถึงเวลาบอกจะง่าย ดังนั้น..พุทธบริษัท ๔ จึงต้องอนุเคราะห์สงเคราะห์กัน แต่ปัจจุบันนี้บ้านเราเล่นผิดบท ประมาณว่า "หัวดำอยากสวด หัวล้านอยากร้อง" ไปคนละทิศเลยนะครับ
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การที่เราจะสร้างประโยชน์ตนให้มั่นคงพอ เพื่อที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ท่าน ก็คือช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมได้ ในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องยาก คณะสงฆ์ถึงได้กำหนดงานขึ้นมา ๖ ด้าน โดยเฉพาะสาธารณสงเคราะห์ อะไรที่พอช่วยสนับสนุนญาติโยมได้ ทำไปเลยครับ อย่าทำแบบวัดผม ของผมมีมากผมให้มาก แต่ท่านทั้งหลายมีน้อย ไม่ใช่ไม่ให้นะครับ ให้ตามน้อย ต่อให้ไม่มีอะไรเลย ถึงเวลาก็ไปเยี่ยมครับ ญาติโยมป่วยติดเตียงก็มี แก่จนมาวัดไม่ไหวก็มี
ตัวอย่างชัดเจนที่สุด หลวงปู่อวยพร (พระครูปฐมวราจารย์) วัดดอนยายหอมครับ ท่านอายุ ๘๓ ปีแล้วนะครับ เดินเยี่ยมโยมทั้งตำบล..! ทำแบบนั้นตลอด พวกเรามัวแต่นั่งรอโยมอยู่ในวัดหรือเปล่าครับ ? การเผยแผ่พุทธศาสนาจะตั้งรับอยู่ในวัดอย่างเดียวไม่ได้นะครับ
ทองผาภูมิของกระผมนี่ เรือนจำทองผาภูมิสามารถรับนักโทษได้ ๙๐๐ คน เขายัดเข้าไป ๑,๖๐๐ คนครับ..! กว่าจะเข้าไปได้แต่ละที ประตู ๔ ชั้นครับ ค้นตัว ยึดโทรศัพท์ ยึดทุกอย่างที่อาจจะก่ออันตรายได้ เข้ายากขนาดนั้นดันเข้าไปจนล้นครับ แต่วัดท่าขนุนไม่มีรั้วครับ ไม่มีประตู เข้าได้ทุกทิศเลย แต่เข้าวัดกันน้อย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-04-2025 เมื่อ 02:27
|